กรรมการผู้จัดการของ Ripple ที่เอเชียใต้, ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือกล่าวว่า Solution การชำระเงินข้ามพรมแดนอย่าง xCurrent ช่วยให้ธนาคารและสถาบันการเงินประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก และมากกว่าการใช้ SWIFT
หันมาใช้ Ripple หมดแล้ว
ในการให้สัมภาษณ์กับ The Asian Banker นาย Navin Gupta กล่าวว่าบริษัท BeeTech ซึ่งเป็นบริษัท ชำระเงินข้ามพรมแดนของบราซิลได้ทำการล้ม SWIFT โดยการลดค่าธรรมเนียมในการโอนเงินจาก 20 ดอลลาร์เหลือ 2 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม
นาย Gupta กล่าวว่าเขาเห็นจุดเปลี่ยนในการใช้ Solution ในการชำระเงินข้ามพรมแดนของ Ripple โดยมีจำนวนสถาบันทางการเงินและธนาคารเข้ามาร่วมใช้เป็นจำนวนมาก
“มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจากทางธนาคาร และเราเชื่อว่าคนอื่น ๆ ก็จะตัดสินใจมาใช้มากขึ้น”
ตอนนี้ Ripple มีลูกค้ามากกว่า 200 บริษัทบนเครือข่ายของเขา มีบริษัทเข้ามาเป็นลูกค้าทุก ๆ อาทิตย์
“สถาบันทางการเงินกว่า 200 แห่งนั้น ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์มาจากเอเชียและตะวันออกกลาง โดยมีความพร้อมในการผลิตและกำลังจะได้เริ่มใช้งาน เราใช้เวลาสองปีในการหาลูกค้าหนึ่งร้อยรายแรก แต่ใช้เวลาแค่หนึ่งปีเท่านั้นในการหาอีก 100 ราย เราใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่เรามีอยู่ซึ่งมีผลเป็นอย่างมาก”
สำหรับ xRapid ของ Ripple ซึ่งใช้ XRP เพื่อเพิ่มสภาพคล่องนั้น นาย Gupta กล่าวว่าการผลักดันของ บริษัทในการเพิ่มความชัดเจนด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างมากสำหรับธนาคารและสถาบันการเงิน
เขากล่าวว่า XRP พร้อมที่จะทำให้ บริษัทต่างประเทศมีวิธีการใหม่ในการเคลื่อนย้ายเงินโดยไม่ต้องถือเงินสดจำนวนมากในธนาคารทั่วโลก
“ต้นทุนที่ใหญ่ที่สุดคือการถือครองสกุลเงินท้องถิ่นในการชำระเงิน ธนาคารเก็บเงินไว้ล่วงหน้าจำนวนมาก ซึ่งมันเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมากและมีความเสี่ยงของค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่อครั้ง”
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Ripple ร่วมมือกับ Exim Bank และประสบความสำเร็จในการใช้ xRapid ในการโอนเงินระหว่างประเทศอีกด้วย ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทางการเงินที่ดีเช่นกัน
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น