ราคาของเหรียญ XRP ที่มี Ripple เป็นผู้อยู่เบื้องหลังอาจจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง จากการวิเคราะห์ของนาย Jack Thomas หรือผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโต ซึ่งตัวแปรต่าง ๆ นั้นประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง xRapid ที่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง Barclays และ Mastercard นำไปใช้ ซึ่งแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ใช้เหรียญ Ripple โดยตรง แต่ทั้งสองบริษัทนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มสนิทสนมกับ Ripple มากขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากนี้ Western Union ก็ได้ออกมาคอนเฟิร์มว่าพวกเขากำลังทดสอบการทำธุรกรรมผ่านระบบของ Ripple ซึ่งทำให้นักลงทุน XRP นั้นให้ความสนใจอย่างมาก
ตัวบ่งชี้หลัก ๆ ก็คือการที่บริษัทการเงินใหญ่ ๆ นั้นกำลังเริ่มที่จะหาระบบใหม่ ๆ เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาระบบการโอนเงินของพวกเขา
ซึ่งก็เป็นที่รู้กันดีว่าเหรียญคริปโตเคอเรนซี่นั้นสามารถถูกส่งหากันได้โดยไร้ตัวกลางอย่างเช่นธนาคาร หรือผู้ให้บริการด้านการส่งเงินแบบเก่า ทว่า Ripple นั้นมีข้อแตกต่างที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย อย่างแรกก็คือ xRapid แพลทฟอร์มของพวกเขาที่มีความเด่นในด้านการเข้ากับข้อกฎหมายของแต่ละประเทศ อีกทั้งยังสามารถดึงดูดธนาคาร Barclays, Mastercard ให้เข้ามาลงทุนในตัวมันได้ รวมถึง Western Union ที่เข้ามาทดสอบมันอีกด้วย
SendFriend กับ Ripple
ทั้ง Barclays และ Mastercard ต่างก็นำเงินมาลงทุนในบริษัทให้บริการด้านการโอนเงินที่เรียกว่า SendFriend โดยบริษัทนี้ก็กำลังใช้แพลทฟอร์ม xRapid ของ Ripple อีกด้วย
SendFriend กำลังพยายามเจาะตลาดการโอนเงินในฟิลิปปินส์ และสหรัฐฯ โดยใช้ xRapid เพื่อแลกเปลี่ยนระหว่างเงินดอลลาร์กับเปโซด้วย XRP ซึ่งสามารถทำให้การโอนเงินระหว่างประเทศนั้นไม่มีการสะดุด, รวดเร็ว อีกทั้งยังมีค่าธรรมเนียมที่ถูกอีกด้วย
หากอธิบายง่าย ๆ ก็คือตลาดนี้กำลังดึงดูดบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง เช่น Barclays และ Mastercard และพวกเขาก็พยายามที่จะเข้าไปในนั้นด้วยการหาบริษัทเล็ก ๆ ลงทุน ที่น่าสนใจคือพวกเขาได้ส่งเสริมให้มีการใช้เหรียญคริปโตอย่างไม่รู้ตัวด้วยการหันไปคลุกคลีกับ Ripple
Western Union ก็แสดงความสนใจ
อีกหนึ่งข่าวที่น่าสนใจที่ทางสยามบล็อกเชนรายงานไปแล้วเมื่อวานนี้ก็คือการที่บริษัท Western Union ผู้ที่เชี่ชวชาญด้านการส่งเงินระหว่างประเทศอาจจะกำลังกลัวกระแสของ cryptocurrency ที่อาจจะมาแทนที่พวกเขาได้ในอนาคต กำลังให้ความสนใจในตัวของ xRapid
นาง Molly Shea หรือผู้จัดการภาคเอเชียแปซิฟิกได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับ Analyse Asia ว่า
“และเรายังคงสำรวจแอพพลิเคชั่นที่น่าจะนำมาปรับใช้กับธุรกิจของเรา ตัวอย่างเช่นเรากำลังทดสอบการประมวลผลธุรกรรมด้วย Ripple กับเงินดอลลาร์และเงินเปโซ และเรียนรู้เกี่ยวกับโอกาสที่เป็นไปได้จริงๆ ตัวเลือกที่เราเลือกจะต้องถูกต้องตามกฎหมายและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางสำหรับการใช้งานของผู้บริโภค”
ประโยคด้านบนนั้นอาจหมายถึงการที่สถาบันการเงินใหญ่ ๆ เริ่มที่จะมอง Cryptocurrency ว่าเป็นของที่มีค่า แทนที่จะเป็นภัยคุกคาม ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง Ripple กำลังมุ่งมั่นในการเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทอื่น ๆ อย่างมากมาย ถือเป็นจุดที่น่าสังเกตว่าพวกเขามีความมั่นใจในการขยายฐานลูกค้าของพวกเขา แม้ตลาดจะยังคงเป็นขาลงก็ตาม บางทีเราอาจจะได้เห็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในอีกเร็ว ๆ นี้ก็อาจเป็นได้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น