อัตราการเพิ่มขึ้นของตู้เอทีเอ็ม Bitcoin คิดเป็น 720 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนจาก 500 ตู้ในปี 2559 มาเป็น 4,300 ตู้ในปี 2562 โดยอเมริกาเหนือครองอันดับหนึ่งที่มีตู้เอทีเอ็ม Bitcoin ถึง 3,113 ตู้ คิดเป็น 71 เปอร์เซ็นต์ของตู้เอทีเอ็ม Bitcoin ที่มีอยู่ในตลาด ดังนั้นเมื่อพิเคราะห์ถึงตัวเลขเหล่านี้แล้วจะเห็นได้ว่า bitcoin และตู้เอทีเอ็ม Bitcoin นั้นมาไกลแค่ไหน
ซึ่งหากลองสังเกตกราฟด้านบนในส่วนของ Bitcoin ATMs จะเห็นได้ว่าตู้เอทีเอ็มมีอัตราการเพิ่มขึ้นที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ ดังเช่นในปี 2557 มีตู้เอทีเอ็มอยู่ 4 ตู้ และในปี 2558 มีการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด คือ 326 ตู้ และต่อมาในปี 2561 และ 2562 เป็นจำนวน 2,063 และ 4,344 ตู้ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนได้ 720 เปอร์เซนต์ โดยตู้เอทีเอ็มเหล่านี้มีอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือจำนวน 3,113 ตู้ คิดเป็น 71 เปอร์เซนต์ของตู้เอทีเอ็มทั้งหมด ในทวีปยุโรปมีอยู่ 1,010 ตู้ คิดเป็น 23.3 เปอร์เซนต์ของตู้เอทีเอ็มทั้งหมด ในทวีปเอเชียมีอยู่ 109 ตู้ คิดเป็น 2.5 เปอร์เซนต์ของตู้เอทีเอ็มทั้งหมด และในทวีปอเมริกาใต้และทวีปออสเตรเลีย มีอยู่ 105 ตู้ คิดเป็น 3.7 เปอร์เซนต์ของตู้เอทีเอ็มทั้งหมด
นอกจากนี้ หากดูในส่วนของแผนภูมิ จะเห็นได้ว่าสกุลดิจิตอลที่ใช้กันในตู้เอทีเอ็มโดยเรียงจากมากไปน้อยคือ Bitcoin, Litecoin, Ethereum, Dash, Monero, Zcash
การเพิ่มขึ้นของจำนวนตู้ ATM เหรียญคริปโตเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะสวนทางกับราคาของตลาด ที่กำลังเป็นขาลงอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเมื่อประมาณช่วงปลายปี 2017 ที่ผ่านมานั้น ราคาของ Bitcoin นั้นได้เพิ่มขึ่้นไปแตะระดับ 20,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ ทว่าภายหลังจากนั้นช่วงปี 2018 ทั้งปี เราก็ได้เห็นการเข้ามาครอบครองตลาดของเทรนด์หมี ที่ทำให้ราคาร่วงลงมาเรื่อย ๆ จนอยู่ในระดับ 3,000 ดอลลาร์ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม บางทีนี่อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าความผันผวนของราคา Bitcoin นั้นอาจจะกำลังหมดลงเรื่อย ๆ โดยสังเกตจากการที่ผู้คนนำมันมาใช้งานจริงมากขึ้น อย่างเช่นในกรณีการซื้อขายเหรียญดังกล่าวผ่านตู้ ATM ทีมีมากขึ้นตามที่รายงานไป ซึ่งหากลองมองดูดี ๆ แล้ว ความผันผวนที่ลดลง หมายความว่ามันจะมีความนิ่งของราคาที่มากขึ้น และนั่นจะทำให้มันกลายเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้นนั่นเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น