โวลลุ่มการซื้อขาย Bitcoin แบบ p2p ในประเทศอินโดนีเซียบนเว็บไซต์ LocalBitcoins พุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง โดยมีมากกว่า 222 BTC ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 8 ล้านดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของกุมภาพันธ์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาถึง 102 BTC ในแค่สัปดาห์เดียว การเพิ่มขึ้นของโวลลุ่มการซื้อขายนี้มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศข้อกฎหมายด้านคริปโตตัวใหม่ ที่ทำให้สถานะของเหรียญ cryptocurrency อย่างเช่น Bitcoin และ Ethereum เป็นสินค้าโภคภัณฑ์
เหรียญคริปโตอย่างเช่น Bitcoin นั้นสามารถถูกซื้อขายได้ในอินโดนีเซียอย่างถูกกฎหมายแล้ว อ้างอิงจากเว็บข่าว KrAsia
ซึ่งดูเหมือนว่าทางหน่วยงานกำกับตลาดฟิวเจอร์ของอินโดนีเซียนั้นจะเปิดประตูให้กับการซื้อขาย Bitcoin โดยการออกกฎหมาย No.5 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการสร้างความแน่นอนต่อกฎหมายในด้านสกุลเงินดิจิทัลและการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
ปัจจุบันโวลลุ่มการซื้อขาย Bitcoin บนเว็บไซต์ Indodax ได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นโดยคิดเป็นเท่าตัวหนึ่ง อ้างอิงจากเว็บ CoinGecko โดยโวลลุ่มการซื้อขายนั้นทะลุผ่านระดับ 5.2 ล้านดอลลาร์ไปแล้ว จากระดับ 2.6 ล้านดอลลาร์ของเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ข้อกฎหมายคริปโตล่าสุดของอินโดนีเซีย ส่วนหนึ่งเผยว่า
“เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่อยู่ในรูปแบบของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้ระบบการเข้ารหัส, เป็นเครือข่ายแบบ peer-to-peer และเทคโนโลยี distributed ledger ที่จะกำกับการสร้าง unit ใหม่ออกมา, ยืนยันการทำธุรกรรม และสามารถที่จะแน่ใจในด้านความปลอดภัยของการทำธุรกรรมโดยที่ไม่ต้องมีตัวกลางมาเกี่ยวข้อง”
แนวทางจากหน่วยงานรัฐบาลของอินโดนีเซีย Commodity Futures Exchange Trading Supervisory Agency (Bappebti) ยังได้เผยถึงการออกมากำกับเว็บผู้ให้บริการซื้อขายคริปโต ที่ทางเว็บเหล่านี้จะต้องมีการดูแลระบบความปลอดภัยที่ดี และจะต้องเป็นไปตามข้อกฎหมายในด้านการป้องกันการฟอกเงิน รวมถึงการยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานอีกด้วย โดยส่วนหนึ่งของรายงานนั้นกล่าวว่า
“70% ของเหรียญของนักลงทุนนั้นจะต้องได้รับการเก็บรักษาไว้บน cold storage ด้วยการร่วมมือกับ (a) ผู้ให้บริการด้านการเก็บรักษาคริปโต, token หรือบริการด้าน wallet (b) เก็บโดยนักลงทุนเอง ด้วยระบบเก็บรักษาบน wallet อื่น ๆ”
แม้ว่าก่อนหน้านี้เว็บเทรดเหรียญคริปโตในอินโดนีเซียนั้นจะเปิดให้บริการกันอยู่แล้วโดยปกติ แม้จะยังไม่มีกฎหมายมากำกับ แต่พวกเขาก็ยังคงอยู่ในพื้นที่สีเทา ๆ ที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่กล้าเข้ามาในตลาด และถึงแม้ว่ามันจะถูกกฎหมายแล้ว พวกเขาก็ยังไม่สามารถนำเหรียญ Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่น ๆ ไปจ่ายเพื่อซื้อสินค้าได้อยู่ดี
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น