VanEck ซึ่งเป็นบริษัทจัดการการลงทุนยักใหญ่ในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมีมูลค่าการบริหารการลงทุนของบริษัทถึง 47 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯยังคงมั่นใจใน Bitcoin แม้ว่าราคาของมันจะลดลงจาก $19,500 ไปสู่ $4,000 ซึ่งเป็นราคาในปัจจุบัน โดยได้กล่าวว่า “Bitcoin นั้นจะไม่หายไปไหนอย่างแน่นอน”
BITCOIN นั้นกำลังปีนขึ้นสู่เป้าหมาย แต่ยังไม่ถึงจุดสูงสุด
ในรายงานถึงผู้ลงทุนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นาย Gabor Gurbacs ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ทางสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทดังกล่าวได้กล่าวว่า นอกจากการคาดหวังการทยานขึ้นของราคาไปสู่จุดสูงสุดสำหรับเหล่าสกุลเงินคริปโตในปี 2019 นี้เพียงอย่างเดียวแล้ว เราควรที่จะคาดหวังว่าอุตสาหกรรมนี้จะดำเนินไปในทิศทางที่ค่อยๆขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของราคาเป็นช่วงๆ ซึ่งช่วงต่างๆนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“จากการที่ Bitcoin มีมูลค่าลดลงจาก $19,500 ไปถึง $3,000 พวกหลายๆคนต่างหวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะและน่าจะยังตามพวกเราไม่ทัน อย่างไรก็ตามยังได้มีการพัฒนาที่สำคัญเกิดขึ้นกับหลายธุรกิจใหญ่ๆ โดยรายการต่อไปนี้จะระบุถึงความคืนหน้า รวมทั้งประกาศ การเปิดตัว และเหตการณ์ต่างๆซึ่งต่างมีส่วนร่วมในการสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลขึ้นมา ”
นาย Gurbacs ได้ชี้ถึงประเด็นต่างๆไว้ดังนี้
- การนำ Bitcoin มาผสมผสานในการใช้งานแอปพลิเคชั่นของ Square Cash
- การที่รัฐ Ohio ยอมรับการชำระภาษีโดยใช้ Bitcoin
- การนำสกุลเงินคริปโตมาผสมผสานในการใช้งาน Samsung Galaxy S10
- การได้มาซึ่ง BitLicense ของ Robinhood ในนิวยอร์ก
- การเพิ่มขอบเขตเกี่ยวกับตราสารอนุพันธ์ของ Bitcoin
- การร่วมมือของ NASDAQ
- ผลิตภัณฑ์ทางการเงินในรูปแบบของ crypto basket ETP ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
- การเข้าสู่ตลาดคริปโตของ facebook
หัวหน้าฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลของ VanEck ได้เขียนแสดงความเห็นต่อต้านกระแสข่าวที่โจมตีวงการคริปโต
มันเป็นมุขตลกที่ใช้กันมายาวนานบนเว็บไซต์ 99Bitcoins ว่าเจ้าของเว็บได้เก็บข้อมูลการเผยแพร่ข่าวที่ต้องการโจมตีวงการคริปโตทุกรายการไว้ตั้งแต่ปี 2010
ปัจจุบันมีการออกมากล่าวว่า Bitcoin นั้นได้ตายไปแล้วถึง 348 ครั้ง แต่เห็นได้ชัดว่า Bitcoin กำลังดำเนินไปในทางที่ดี โดยข้อความจาก VanEck เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับ Bitcoin และสกุลเงินคริปโตทั้งหลายนั้นเป็นไปในทางสนับสนุนวงการคริปโตและโต้ตอบข่าวร้ายต่างๆ
แม้ว่าจะไม่ใช่แค่ Gurbacs และเพื่อนร่วมงานของเค้า Kyle DaCruz เท่านั้น ซึ่งเห็นอนาคตและความยั่งยืนของ Bitcoin ก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้พวกเค้าทั้งคู่แตกต่างจากบุคคลเหล่านี้คือการคาดคะเนของพวกเค้าตั้งอยู่บนสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและรายละเอียดของอุตสาหกรรมตามความเป็นจริง
สิ่งเหล่านี้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการผลักดันตลาดไปข้างหน้า สู่จุดสูงสุดซึ่งเป็นชัยชนะของอุตสาหกรรมคริปโตต่อสถาณการณ์ต่างๆเช่น เงินเฟ้อ การถูกเฝ้าตรวจสอบโดยรัฐบาล ความเป็นส่วนตัว การควบคุม และอัตราค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไปของการธนาคาร
อีกทั้งยังได้มีเหตุการณ์สำคัญๆอีกมากที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2018 ซึ่ง Gurbacs และ DaCruz ไม่ได้กล่าวถึงในเรื่องความสำเร็จของอุตสาหกรรมคริปโตในช่วงที่ผ่านมานี้
คำร้อง BITCOIN ETF ของ VanEck กำลังได้รับการพิจารณาโดย SEC
จากการมีส่วนในการจัดการสินทรัพย์ทองคำ รวมถึงเหมือนและกองทุนที่เกี่ยข้องต่างๆแล้ว VanEck ยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะบริษัทที่นำเสนอช่องทางต่าง ๆ ให้ลูกค้าอย่างเช่น สินทรัพย์ที่มีรูปร่าง และตลาดซึ่งเกิดขึ้นใหม่ทั้งหลาย เป็นหัวหอกซึ่งสวนทางกับภาวะทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และภาวะทางการเมือง
โดยกองทุนการซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin นั้นเป็นหนึ่งในงานหลักของส่วนการจัดการความมั่งคั่งของบริษัท หลังจากการยื่นคำร้องสำหรับกองทุนการซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin ดังกล่าวแล้วในช่วงที่มีการปิดตัวลงของรัฐบาล ทาง VanEck กำลังรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC)
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ได้มีการปฎิเสธคำร้องในรูปแบบดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งด้วยเหตุที่ว่า คำร้องต่างๆไม่สามารถพิสูจน์ให้สำนักงานเห็นได้ว่าตลาดนั้นไม่ได้ถูกชักจูงหรือควบคุม อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นกับกองทุน ETF อื่นๆแต่อย่างใด
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น