แม้ว่าราคาของ Bitcoin นั้นมีมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ได้มีการดิ่งลงของราคาเมื่อปลายปีก่อน แต่ตลาดสำหรับสกุลเงินคริปโตบางประเภทอย่างเช่น altcoins กำลังเติบโตอย่างเงียบๆ พร้อมกับ ดิจิทัล token อื่นๆซึ่งได้ตามหลังการพัฒนามาไกลๆ โดยนิตยสารด้านการเงินระดับโลกอย่าง Forbes นั้นได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับสาเหตุที่ราคาของ Cardano นั้นพุ่งขึ้นมากว่า 50% ในปีนี้
โดยราคาของ Bitcoin นั้นตกลงมาที่ราวๆ 80% ของราคาสูงสุดตลอดกาลซึ่งได้ขึ้นไปแตะไว้เมื่อเกือบสองปีก่อน และได้ดำรงสภาพตลาดขาลงมาเป็นเวลานานซึ่งเรียกขานสภาวะดังกล่าวกันว่า ‘crypto winter’ ซึ่งสร้างผลเสียให้กับอุตสาหกรรมคริปโตโดยรวมเป็นอย่างมาก อีกทั้งเป็นผลให้เหล่าทั้งลงทุนและนักเทรดทั้งหลายเริ่มหันหน้าไปพึ่งตัวเลือกอื่นๆแทน
ในขณะที่สกุลเงินคริปโตหลายสกุลได้ต่างมีการพัฒนาที่เป็นที่ยอมรับโดยสาธารณชน สกุลเงิน Cardano ซึ่งถูกจัดอยู่ในอัดดับสิบของเหรียญซึ่งมีมูลค่าทางตลาดมากที่สุด โดยมีมูลค่าถึง 1.5 พันล้านบาทได้ไต่ระดับราคาขึ้นไปอย่างเงียบๆ
เหรียญ Cardano ซึ่งได้ซื้อขาย Token กันในนาม ADA ได้มีการเพิ่มขึ้นของราคากว่า 22% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทะลุขึ้นไปนั่งแทนหนึ่งในสิบอันดับสกุลเงินคริปโตที่ใหญ่ที่สุดโดยวัดจากมู,ค่าทางตลาดเป็นที่เรียบร้อย กล่าวโดยละเอียดแล้ว Cardano นั้นได้มีมูลค่าเพิ่มถึง 30% ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาและเพิ่มขึ้นถึงกว่า 50% ในช่วงปีนี้ อ้างอิงข้อมูลราคาจากเว็บไซต์ติดตามข้อมูลราคาชื่อดังอย่าง CoinMarketCap
นาย Mati Greenspan นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสจาก eToro ได้กล่าวว่า “ช่วงสภาวะตลาดขาลงที่ยาวนานหรือที่เรียกกันว่า The great crypto winter นั้นกำลังมาถึงจุดสิ้นสุดในไม่ช้าแล้ว อีกทั้งพวกเรายังเริ่มที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างที่ดอกไม้เริ่มที่จะผลิบานหลังจากฤดูหนาวอันยาวนานได้ผ่านพ้นไป”
“ในระหว่างช่วงเวลานี้ซึ่งเรียกกันว่ายุคทองของ Altcoins หรือ altseason นั้น Bitcoin ได้มีการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกับการที่สกุลเงินคริปโตที่เล็กกว่านั้นเริ่มมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาอย่างก้าวกระโดดเนื่องจากการที่นักลงทุนทั้งหลายได้มีการปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนของตน Cardano นั้นเป็นหนึ่งใน altcoins ซึ่งนักลงทุนต่างกำลังกอบโกยจากขาขึ้นของเหรียญเหล่านี้ในปัจจุบัน ”
เหรียญ Cardano นั้นได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายปี 2017 ท่ามกลางกระแสการตื่นสกุลเงินคริปโตโดยเริ่มเห็นการเพิ่มขึ้นของราคาเกินกว่า $1ต่อ เหรียญ ADA หนึ่งเหรียญเมื่อต้นปี 2018 ก่อนที่จะดิ่งลงไปอยู่ท่ามกลางตลาดครืปโตสกุลอื่นๆ
Cardano ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการหากำไรได้มีองค์ประกอบหลักทั้งหมดสามองค์กรซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกันไปสำหรับการดูแลรักษาและการพัฒนาระบบ ซึ่งทั้งหมดนี้ดำเนินการโดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรหลายท่านซึ่งต่างมีวัตถุประสงค์ร่วมกันในหาวิธีการในการขยายการดำเนินการและการป้องกันเครือข่าย Blockchain อีกทั้งบุคคลเหล่านี้ยังร่วมกันดำเนินงานซึ่งเป็นการผสมผสานและพัฒนา smart contracts อีกด้วย
ทั้งนี้ Cardano นั้นได้มีการพัฒนาล่าสุดโดยการออกอัพเดทสำหรับระบบเครือข่ายรุ่นล่าสุด ซึ่งเป็นการพัฒนาขั้นสำคัญเพื่อสานต่อและพัฒนาเทคโนโลยีอัลกอริทึ่มซึ่งได้รับการคาดหวังจากทุกฝ่ายอย่างการอัพเกรดในชื่อโครงการ Shelley บนอัลกอริทึ่ม proof-of-stake
ตลาดสกุลเงินคริปโตรวมถึงตลาดของ Ethereum ที่กว้างขึ้นนั้นต่างกำลังดำเนินการในการเปลี่ยนผ่านจากอัลกริทึ่ม proof-of-work ซึ่งเป็นหลักเดิมที่ใช้ดำเนินการ ไปสู่อัลกอริทึ่ม proof-of-stake ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายในการลดอัตราการใช้พลังงานและเป็นการเพิ่มศักยภาพความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น
ในการอัพเดทล่าเครือข่ายล่าสุดของทาง Cardano นั้นหมายความว่าดหรียญ ADA นั้นจะใช้ชุดกฎคำสั่ง consensus ชุดใหม่ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม Ouroboros BFT โดยมีผลเป็นการช่วยสนับสนุนและเพิ่มอัตราการตอบโต้การโจมตีซึ่งสามารถทำให้สกุลเงินคริปโตนั้นมีปัญหาได้ถึง 51%
“การอัพเดทดังกล่าวนี้ในทางเทคนิคแล้วเป็นการ hard fork เหรียญ แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างแนบเนียนและเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติด้วยเหตุที่ว่าการยกเครื่องครั้งที่ได้มีการวางแผนถึงชุดกฎคำสั่งที่จะดำเนินการมาแล้วเป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในระบบต่างยินดีที่จะร่วมดำเนินการ ”
เหล่านักพัฒนาของ Cardano ได้เขียนลงใน Blog ไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกว่า
“การอัพเดทรุ่น 1.5 ของ Cardano นั้นยังส่งผลให้มีการพัฒนาอื่นๆอีกมาก ซึ่งรวมถึงการพัฒนาด้านศักยภาพในการเรนเดอร์รายการต่างๆเมื่อมีรายการธุรกรรมและรายการ Wallet เป็นจำนวนมาก นอกยังนั้นยังรวมถึงฟีเจอร์เสริมในการตรวจสอบถึงสถานะของพื้นที่เก็บข้อมูลและพื้นที่แสดงผลแบบใหม่สำหรับการถ่ายทอดกระบวนการรวมรวม block storage อีกด้วย ”
ในขณะเดียวกัน ทั้งการพัฒนาของ Cardano รวมถึงการเปิดตัว Wallet แบบใหม่ซึ่งมีคุณมบัติในการฝากเงินและการรับส่งเหรียญ ADA รวมถึงการตรวจดูข้อมูลทางธุรกรรมนั้นง่ายดายมากขึ้น และข่าวลือที่ว่ากลุ่มนักพัฒนาสกุลเงินคริปโตในชื่อ Input Output Hong Kong (IOHK) และทางมูลนิธิ Cardano เองนั้นจะร่วมกันเปิดตัวระบบเครือข่ายการชำระเงินสำหรับใช้โดยทั่วไปโดยอาศัยเหรียญ ADA ต่างก็ได้มีส่วนในการผลักดันให้ราคาของเหรียญนั้นพุ่งสูงขึ้นไปอีก
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น