<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บทสนทนาลับผู้บริหาร Bitfinex เผยว่า “ราคา Bitcoin อาจร่วงเหลือแค่ 1,000 ดอลลาร์เพราะ Tether”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อย่างที่ทุกคนได้ทราบกันดีว่าเว็บเทรดคริปโตเคอร์เรนซี Bitfinex นั้นก่อนหน้านี้ได้ถูกยื่นฟ้องโดยนาง Letitia James อัยการสูงสุดของนิวยอร์คข้อหานำเหรียญ USDT มาใช้หนี้เงินที่สูญหายไปกว่า 850 ล้านดอลลาร์

เนื่องจากเหตุการฟ้องร้องดำเนินคดีดังกล่าวจึงทำให้มีผู้คนถกเถียงกันว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin ล่วงจาก 6,000 ดอลลาร์มาสู่ 4,000 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2018

จากเอกสารบทสนทนาของฝ่ายผู้บริหารที่ใช้ชื่อว่า Merlin และพาร์ทเนอร์ธุรกิจ Crypto Capital (ใช้ชื่อย่อว่า CCC) ทั้งคู่ได้กล่าวว่าราคา Bitcoin อาจจะร่วงลงมาถึง 1,000 ดอลลาร์เพราะเหตุ Tether

ข่าวฉาวของ Bitfinex และ Tether

อัยการชั้นสูงแห่งนิวยอร์คได้ยื่นฟ้อง Bitfinex ไปเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมาได้แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือในหน้าที่ 12 ถึง 15 ของเอกสารได้มีการเปิดเผยบทสนทนาระหว่างผู้บริหารของ Bitfinex และพาร์ทเนอร์ธุรกิจ Crypto Capital ที่ได้มีการกล่าวถึงกรณีที่ Bitfinex จำเป็นต้องใช้เงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์เพื่อเอาไปให้บริการถอนเงินกับลูกค้า

“ราคา Bitcoin อาจร่วงลงมาถึง 1,000 ดอลลาร์ได้ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่าง”

ทางผู้บริหารของ Bitfinex ได้บอกว่าบริษัทต้องการเงินอย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์เพื่อเอาไปใช้สำหรับการถอนเงินซึ่งมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่พอทาง Tether มีข่าวฉาวออกมาอีกว่าจริง ๆ Tether เองก็ไม่ได้มีเหรียญ USDT สำรองเงินดอลลาร์ไว้แบบ 1 ต่อ 1 อย่างที่ทางบริษัทกล่าว ทำให้ Bitfinex ไม่สามารถหาเงินตรงนี้มาได้

ราคา Bitcoin ร่วงจาก 6,400 ดอลลาร์มาสู่ 4,009 ดอลลาร์ภายในช่วงเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์

ทาง Bitfinex ก็ไม่ได้เงินจาก Crypto Capital ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนี้ราคา Bitcoin ก็ร่วงจาก 6,400 ดอลลาร์มาสู่ 4,009 ดอลลาร์ภายใน 2 สัปดาห์ ทำให้ Market Cap ของ BTC ลดลงกว่า 41.6 พันล้านดอลลาร์

ในขณะเดียวกันก็มีผู้อื่นวิเคราะห์ว่าจริง ๆ แล้วที่ราคา BTC ร่วงเป็นเพราะการ Hard Fork ของ Bitcoin Cash (ฺBCH) และ Bitcon SV (BSV) ต่างหากแต่หากดูจากเอกสารที่ได้เผยแพร่ดังกล่าวข้างต้นราคา BTC ร่วงนั้นอาจเป็นเพราะ Tether เสียมากกว่า ทางผู้บริหารของ Bitfinex ก็รู้ดีว่าถ้าหากทางบริษัทไม่สามารถให้บริการถอนได้จะเกิดอะไรขึ้น แม้ราคา BTC ไม่ได้ร่วงลงมาถึง 1,000 ดอลลาร์ แต่ก็ต้องนับว่าราคาที่ร่วงลงมานี้มันค่อนข้างเยอะมากทีเดียวซึ่งเราก็ต้องรอดูผลการดำเนินคดีของทางอัยการสูงสุดต่อไป

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น