ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่นานมานี้ ทั้งทองคำและ Bitcoin นั้นต่างได้มีราคาที่แข็งตัวขึ้นจากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯนั้นอ่อนตัวลง โดยเหตุหลัก ๆ นั้นมาจากการออกมาตรการคว่ำบาตรประเทศอิหร่านของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์ไม่น้อยเลยทีเดียว โดย Bitcoin มีมูลค่าสูงขึ้นกว่า 2.9% หลังการประกาศอยู่ที่ $11,363 ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ราคา $12,941.04 และทองคำได้พุ่งแตะราคาสูงสุดในรอบหกปีที่ราคา $1,434 เป็นที่เรียบร้อย
มูลค่าสกุลเงินดอลลาร์นั้นได้อยู่ในช่วงอ่อนตัวและได้แตะจุดต่ำสุดในรอบเวลาหลายเดือนเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมาเมื่อเทียบอัตราแลกเปลี่ยนกับสกุลอื่นอย่างยูโรหรือเงินเยนของประเทศญี่ปุ่นแล้ว โดยมีดัชนีราคาต่ำสุดในรอบสามเดือนที่ 95.94 ซึ่งคำนวนเป็นมูลค่าที่ลดลงจากสกุลเงินอื่นๆถึง 1.7%
โอกาสสำคัญของ Bitcoin เมื่อสกุลเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง
สิ่งเหล่านี้อาจเป็นผลกระทบจากการแก้ปัญหาของทางการสหรัฐฯที่ได้นำเงินจากคลังสำรองของประเทศออกมาใช้ เป็นผลให้ค่าเงินอ่อนตัวลงประกอบกับสงครามทางเศรษฐกิจระหว่างตัวสหรัฐฯเองกับประเทศอิหร่านและประเทศจีน ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วการเพิ่มขึ้นของมูลค่า Bitcoin นั้น เป็นหนึ่งในกลไกตลาดจากการที่สกุลคู่ค้าสำคัญของเหรียญดังกล่าวนั้นมีมูลค่าลดลงอย่างมากก็เป็นได้
Tom Lee ยังคงมีความหวังอยู่ (เสมอ)
นาย Tom Lee หัวหน้าฝ่ายการวิจัยและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Fundstrat Global ซึ่งได้มีการพูดคุยกับทางสื่อ CNBC นั้น ได้แสดงความเห็นด้วยกับทิศทางของตลาดดังกล่าว โดยได้กล่าวเป็นนัยว่าการที่มูลค่า Bitcoin นั้นเพิ่มขึ้นอยู่ในช่วงห้าหลักได้นี้ น่าจะเป็นสัญญาณให้เหล่านักลงทุนที่หวังเก็งกำไรระยะยาวหรือนักลงทุนในตลาด Futures ทั้งหลายมีความมั่นใจในตัวเหรียญมากขึ้น
นอกจากนี้แล้ว Bitcoin นั้นยังได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในช่วงปี 2019 เลยทีเดียว ตั้งแต่ในช่วงที่ราคาของมันยังอยู่ที่ระดับ $5,000 จนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตลอดครึ่งแรกของปี กระทั่งมีการถีบตัวขึ้นอย่างมากในช่วงต้นเดือนนี้ ส่วนหนึ่งนั้นอาจเป็นเพราะความสนใจในตลาดโดยภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดตัวเหรียญของบริษัทยักษ์ใหญ่ Facebook อย่างเหรียญ Libra นั่นเอง
ที่มา : Beincrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น