หลายประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ประเทศจีน หรือแม้แต่สหภาพยุโรปต่างให้ความสนใจต่อสกุลเงินคริปโตใหม่จากทางบริษัท Facebook เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าวของประเทศจีนอย่าง China Daily ได้มีการรายงานในช่วงวันที่ 20 ที่ผ่านมา โดยมีผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งออกมากล่าวถึงความเป็นไปได้ที่เมืองปักกิ่งของประเทศจีนนั้นกำลังเตรียมออกเหรียญคริปโตของธนาคารกลางซึ่งมีรัฐบาลเป็นประกัน
นอกจากนี้ทางฝั่ง Facebook เองก็ยังไม่สามารถที่จะประกาศกรอบเวลาที่แน่นอนในการเปิดตัวเหรียญ จากสถานการณ์ของทางบริษัทและฝั่งของผู้ร่างกฎหมายต่างๆทั่วโลก แต่ทางฝั่งประเทศจีนนั้นได้เคยประกาศในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว โดยหัวหน้าฝ่ายรักษาการของธนาคารกลางได้ออกมายืนยันว่าสกุลเงินคริปโตของธนาคารกลางนั้นพร้อมแล้วที่จะเปิดตัว แสดงถึงก้าวสำคัญของประเทศในการก้าวขึ้นมาแข่งกับ Libra
ทั้งนี้ทางธนาคารกลางของประเทศจีนยังได้ออกมาแสดงถึงความกังวลเกี่ยวกับ Libra เนื่องจากสกุลเงินดังกล่าวนั้นมีเงินสกุลดอลลาร์เป็นกองทุน และยังมีผู้เกี่ยวข้องมากมายเป็นบริษัทด้านการเงินของสหรัฐฯอเมริกาเช่น VISA ,PayPal และ MasterCard ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มของผู้ควบคุม Nodes ของสกุลเงินดังกล่าว
คู่แข่งในตลาดต่างกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แนวคิดของการสร้างเหรียญอย่างเช่น Libra นั้นได้มีมานานก่อนที่ทาง Facebook จะได้ประกาศออกมาเสียอีก ซึ่งเป็นที่สนใจของทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ ก่อนหน้านี้ซึ่งผู้เล่นสำคัญในตลาดอย่าง Binance ยังได้กล่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าพวกเขาจะทำการเปิดตัวโครงการที่คล้ายกับ Libra ของพวกเขาในชื่อ Venus อีกด้วย
นอกจากนี้ นาย Erik Finman ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยจาก Bitcoin ยังได้ออกมากล่าวว่าตัวเค้าเองก็ได้มีแผนการที่จะดำเนินโครงการในชื่อ Metal Pay ซึ่งตัวเค้ามั่นใจว่ามันจะเข้ามาล้ม Libra และดึงความสนใจของผู้คนไปจาก Bitcoin ได้ โดยเค้าได้กล่าวผ่านคลิปวิดีโอซึ่งเผยแพร่ในช่วงวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า
“พวกเรานั้นต้องการที่จะเป็นธนาคารดิจิทัลกลางของโลก ”
หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของข้อมูลของบริษัท Coinbase นาย Philip Martin ได้ออกมากล่าวว่า
“จากมุมมองของพวกเราแล้ว Libra นั้นมีศักยภาพอย่างมากในการเชื่อมโยงผู้คนนั้นพันล้านคนทั่วโลกเข้ากับสกุลเงินคริปโตต่างๆ เนื่องจากการดำเนินการของบริษัทซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับโครงการของ Libra เอง อย่างไรก็ตามมันยังเป็นการเร็วเกินไปที่จะกล่าวสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากทั้งตัวเหรียญ ตัวโปรโตคอล และตัวสกุลเงิน”
ที่มา : bitcoinist
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น