<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคา Bitcoin ยังคงยืนเหนือ 10,000 ดอลลาร์ คำถามคือมันจะอยู่ได้นานแค่ไหน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อไม่นานมานี้ราคา Bitcoin (BTC) ได้ร่วงแตะราคา 10,000 ดอลลาร์อีกครั้งและมันได้ยึดระดับราคานี้ไว้อย่างเหนียวแน่น  ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Bitcoin ได้ปรับตัวลดลงประมาณ 1.25% ซึ่งนี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับ Bitcoin เพราะในอีกไม่กี่วันข้างหน้า Bakkt จะเปิดตัว Bitcoin Futures อย่างเป็นทางการแล้ว ในวันที่ 23 กันยายน

ราคา Bitcoin ร่วงก่อนการเปิดตัว Bakkt

ปัจจุบันราคาคริปโตเคอเรนซี่ 10 อันดับแรกยังคงวิ่งอยู่ในแดนลบ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา altcoins มีผลตอบแทนที่ได้ดีกว่า Bitcoin โดยเฉพาะ Ethereum (ETH), Litecoin (LTC), EOS และ Stellar (XLM) ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีผลตอบแทนดีที่สุดในช่วงเวลานั้น

อ้างอิงข้อมูลจาก CoinMarketCap จะสังเกตเห็นได้ว่า Altcoin ทั้งหมด 10 อันดับแรกค่อย ๆ ปรับตัวลดลง ยกเว้น EOS ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.88% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Ethereum ลดลง 0.45%, XRP 1.2% Bitcoin Cash (BCH) 1.33%, Litecoin 1.42%, Binance Coin ( BNB) 0.56%, Bitcoin SV (BSV) 0.61% และ Stellar 6.32% หลังจากพุ่งสูงถึง 40% หรือ 120% ในบางกระดาน

Bitcoin มีการซื้อขายอยู่ที่ระหว่าง 9,800 ถึง 10,500 ดอลลาร์ โดยราคาได้วิ่งอยู่ในช่วงราคานี้เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้ว ซึ่งมีบางช่วงที่ราคา BTC ร่วงเหลือ 9,400 ดอลลาร์หรือ พุ่งขึ้นไปแตะที่ 11,000 ดอลลาร์ แต่มันก็เป็นเพียงแค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น 

Bitcoin ยังคงวิ่งไซด์เวย์อยู่ในกรอบรูปสามเหลี่ยมมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน หลังจากที่ราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงจากระดับ 3,200 ดอลลาร์ ในเดือนธันวาคม 2017 ไปแตะจุดสูงสุดที่ราคา 13,750 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน 2019 

ผู้ที่ศรัทธาใน Bitcoin เชื่อว่าราคาอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจาก Bakkt ซึ่งเป็นบริษัทที่สร้างขึ้นโดย Intercontinental Exchange (ICE) และเป็นบริษัทแม่ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) กำลังจะเริ่มเสนอขายสัญญา Bitcoin Futures ที่มี Bitcoin จริง ๆ ค้ำอยู่เบื้องหลัง

สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้หลายคนและนักลงทุนสถาบันสามารถวางเงินทุนในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ โดย Bakkt จะสร้างพื้นที่คริปโตที่ถูกต้องตามกฎหมายและจัดหาเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการลงทุนใน Bitcoin

Bakkt เป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ โปรเจคที่มุ่งเน้นไปยังสถาบันนักลงทุน และมันยังมีบริษัทอีกหลายแห่งที่ทำการขออนุญาตกองทุน Bitcoin Exchange-Traded Fund (ETF) อยู่แต่ก็ยังไม่ได้มีที่ใดได้รับการพิจารณาจากสำนักงาน ก.ล.ต. แห่งสหรัฐฯ ส่วนทาง Fidelity Investments ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านการลงทุน ยังคงทำงานอยู่ในโปรเจคคริปโตของพวกเขาเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับสถาบันก่อนที่จะเข้าสู่พื้นที่คริปโตอย่างจริงจัง

หาก Bitcoin สามารถยืนเหนือระดับราคา 10,000 ดอลลาร์ได้ต่อไปเรื่อย ๆ เป็นไปได้ว่านักลงทุนสถาบันจะเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ที่มา : usethebitcoin

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น