<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ชุมชนผู้ใช้งาน XRP กำลังตื่นเต้นกับราคาที่พุ่งขึ้นถึง 15% ในเดือนนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะที่ คริปโตเคอเรนซี่ตัวอื่น ๆ พยายามฟื้นตัวขึ้นมาจากจุดต่ำอยู่นั้น ในขณะเดียวกันราคาของ XRP ก็ได้พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Ripple ได้กลายเป็นประเด็นที่ร้อนแรงบนสื่อโซเชียลมีเดีย หรือนี่เป็นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการมาของ Altcoin Season 

นับตั้งแต่ตลาดคริปโตเริ่มพังทลายในช่วงปลายเดือนกันยายน เนื่องจากความผิดหวังสำหรับการเปิดตัวแพลตฟอร์มซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สของ Bakkt  ซึ่งเห็นได้ชัดว่าในช่วงเวลานั้นราคา Bitcoin ได้ร่วงลดลงถึง 25%

แม้ว่า Xrp จะมีร่วงลดลงมากว่า 15% ในช่วงเหตุการณ์ของ Bakkt แต่มันก็สามารถฟื้นตัวจากราคา 0.23 ดอลลาร์เพิ่มขึ้นมาเป็น 0.268 ดอลลาร์ได้ในที่สุด อ้างอิงราคาจาก CoinGecko 

ราคายังมีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นได้อีก

ในสัปดาห์นี้ดูเหมือนว่าจะเป็นสัปดาห์ที่น่าใจของ Ripple ดังที่เห็นได้ในกราฟ Tradingview โดยราคาของ Ripple ยังมีโอกาสที่จะเติบโตซ้ำรอยเดิมในอดีต เกือบจะสองปีแล้วนับตั้งแต่ที่มีเหตุการณ์ Altcoin bubble เกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2018 ในเวลานั้นราคา XRP ได้พุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ 3.31 ดอลลาร์ ซึ่งนั่นคิดเป็น 10 เท่าของราคาในวันนี้

การพุ่งขึ้นของราคา XRP จะเป็นตัวเหนี่ยวไกให้เกิด Alt-season ได้หรือไม่ ?

เหตุผลหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นของราคา XRP นั้นก็คือการ FOMO ของ Ripple ในสื่อโซเชียลมีเดีย หลังจากที่บริษัทได้สร้างความ hype ให้กับ Ripple protocol และโทเค็นของ XRP

นอกจากนี้นาย Cz CEO ของกระดานเทรดคริปโตชั้นนำของโลก Binance ก็ได้ออกมาร่วมแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ด้วยเช่นกันและเผยว่าจะมีการเพิ่มเหรียญ Xrp บน Binance chain และ Binance DEX อีกด้วย โดยเขากล่าวว่า 

“สิ่งนี้น่าจะมีการประกาศในภายหลัง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องปกติของโครงการบล็อคเชนที่มีคุณสมบัติโปร่งใสและไม่มีอะไรที่สามารถปกปิดมันได้เลย เอาล่ะถ้างั้นคุณไปเทรด #XRP (on chain) บน #BinanceChain และ @Binance_DEX กันเลยดีกว่า ลองเดาซิว่าเมื่อสิ่งนี้เปิดตัวผู้คนจะหลั่งไหลเข้ามาหรือไม่ ?”

นอกเหนือจากการประกาศของ Binance แล้ว Ripple ยังได้ขยายการดำเนินงานไปยังยุโรป ด้วยการเข้าซื้อกิจการของ Algrim บริษัทการซื้อขายสกุลเงินคริปโตในไอซ์แลนด์พร้อมกับเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับการบริการสภาพคล่องตามความต้องการขององค์กร (organization’s on-demand liquidity service)

รวมไปถึงเรื่องการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Logos Network ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้นำวิศวกรเก้าคนมาสู่ทีม Ripple’s investment arm Xpring โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ XRP ( DeFi)

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ Twitter จะเป็นตัวจุดฉนวนระเบิดทำให้ราคา XRP พุ่งสูงขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งนี้อาจเป็นตัวผลักดันให้ตลาดคริปโตเคอเรนซี่เข้าสู่ช่วง Bull run ก็เป็นได้

ที่มา : cryptopotato

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น