ทางบริษัทเว็บบราวเซอร์อย่าง Brave Software ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการถึงความร่วมมือระหว่างในการโปรโมทร่วมกับทางบริษัทอย่าง Everipedia ซึ่งดำเนินการการจัดทำสารานุกรมบนเทคโนโลยี Blockchain เพื่อเป็นการเรียกความนิยมจากเหล่าผู้ใช้งาน โดยการประกาศดังกล่าวนี้มาพร้อมกับยอดผู้ใช้งานบราวเซอร์ของพวกเขาซึ่งพุงทะลุเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งสกุลเงินคริปโตเบื้องหลังบราวเซอร์ดังกล่าวอย่าง Basic Attention Token (BAT) นั้นก็อาจมีแนวโน้มที่จะมีราคาพุ่งขึ้นตามมาด้วยก็เป็นได้
ความร่วมมือเพื่อสร้างกลยุทธ์ใหม่ ๆ
บราวเซอร์ Brave นั้นเป็นระบบบราวเซอร์ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง อยู่ในรูปแบบของโปรแกรมแบบ open-source ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้งานได้ฟรี อีกทั้งยังฝังระบบป้องกันโฆษณาไว้ในตัวอีกด้วย ซึ่งจุดเด่นของบราวเซอร์นี้คือระบบการให้รางวัลแก่ผู้ใช้งานที่ได้เลือกเปิดฟังชั่นให้มีการโฆษณาแบบที่ยังมีการคงความเป็นส่วนตัวไว้อยู่ ในรูปแบบของเหรียญคริปโตอย่าง BAT โดยทั้งนี้ยังได้มีรายงานกล่าวว่ารายได้จากการโฆษณากว่า 70% นั้นได้ถูกแจกจ่ายไปยังผู้ใช้งานในระบบอีกด้วย
New partnership with @Everipedia, the world’s largest blockchain-based encyclopedia. Everipedia is also a Brave verified publisher, so you can support them via Brave Rewards. https://t.co/xpd3SlLSxT
— Brave Software (@brave) October 30, 2019
ความร่วมมือระหว่างบริษัท Brave Software และบริษัท Everipedia นั้นยังได้แสดงให้เห็นถึงการพยายามเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานภายในเครือข่ายบราวเซอร์ของบริษัททั้งสองอีกด้วย ทั้งนี้นาย Brendan Eich ผู้บริหารของบริษัท Brave Software ยังได้ออกมากล่าวถึงการดำเนินการของพวกเขาดังนี้
“ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของสินค้าด้านนวัตกรรมที่ตอบแทนผู้ใช้งานซึ่งให้ความสนใจและมีส่วนร่วมในสินค้าในรูปแบบของการให้รางวัล โดยทางบริษัท Brave ได้นำเสนอบราวเซอร์ที่มีความเป็นส่วนตัวและเป็นเสมือน Wallet ของผู้ใช้ โดยเป็การให้รางวัลตอบแทนแก่ทั้งเหล่าผู้ใช้และเป็นการสนับสนุนเหล่านักพัฒนาไปในตัว ซึ่งเมื่ออาศัยความร่วมมือกับทาง Everipedia แล้วพวกเราจะสามารถนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานให้แก่ผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้แล้วทางผู้แทนของบริษัท Everipedia อย่างนาย David Liebowitz ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือและการดำเนินการเกี่ยวกับ Exchange ได้ออกมากล่าวถึงสิงที่เกิดขึ้นดังนี้
“พวกเราคิดว่าการร่วมมือเพื่อผลักดันกลุ่มผู้ใช้บนเครือข่ายของพวกเรานั้นเป็นสิ่งที่ตัดสินใจไม่ยากนัก ซึ่งเป้าหมายนั้นคือการดึงกลุ่มผู้ใช้งานของ Brave ให้มีการเข้าใช้งาน Everipedia มากขึ้นในฐานะที่เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของสารานุกรมออนไลน์ นอกจาก Wikipedia อีกทั้งยังเป็นการผลักดันให้ผู้ใช้งานของ Everipedia นั้นใช้บราวเซอร์ Brave ในขณะที่ใช้งานสารานุกรมอีกด้วย ซึ่งพวกเราหวังว่ามันจะเป็นการเพิ่มระดับการเข้าใช้งานและการเข้าถึงโดยผู้ใช้สำหรับสินค้าของบริษัททั้งสองได้นั่นเอง”
ทางบริษัท Brave ยังได้มีการออกมาเปิดเผยถึงข้อมูลในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้ว่าบราวเซอร์ของทางบริษัทนั้นได้มีตัวเลขผู้ใช้รายวันกว่า 2.8 ล้านคน อีกทั้งตัวเลขผู้ใช้รายเดือนนั้นยังทะลุเป้าเกินกว่า 8 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวนั้นเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับตัวเลขจากเหล่าผู้ผลิตสื่อบนเครือข่าย
Now 8 million monthly active users for Brave, & nearly 400 privacy-preserving ad campaigns (with a stellar 14% click-through rate, compared to 2% industry average)! Thank you to all our users and partners as we expand our platform for a better Internet. https://t.co/OQYOXLtlkl
— Brave Software (@brave) October 16, 2019
เมื่อพิจารณาช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เหล่าผู้ผลิตสื่อของบราวเซอร์กว่า 36,600 รายนั้นมาจากช่องของ Youtube และเว็บไซต์พวกเขาเพียงอย่างเดียว แต่ในขณะนี้ได้มีตัวเลขผู้ผลิตสื่อรวมแล้วกว่า 245,000 ราย คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 6.7 เท่า และหากรวมที่มาอย่าง Twitch, Twitter, Reddit, Vimeo, และ Github แล้วตัวเลขผู้ผลิตสื่อทั้งหมดคิดเป็นจำนวนกว่า 300,000 รายเลยทีเดียว
ในประเทศโปรตุเกสนั้น บราวเซอร์ Brave ได้ขึ้นแท่นอันดับสี่ในหมวดแอพลิเคชั่นการสื่อสารของระบบแอนดรอยด์ นำหน้า Telegram และ Facebook Messenger อีกทั้งในประเทศญี่ปุ่น บราวเซอร์ดังกล่าวยังได้อยู่ในอันดับแปดของหมวดเดียวกันผลักให้ Firefox และ Skype ต้องอยู่รั้งท้าย
นอกจากนี้แล้วโครงการโปรโมทระบบการโฆษณาดังกล่าวของบราวเซอร์นั้นยังมีอัตราการคลิกเข้าไปดูของผู้ใช้งานบนเว็บสูงถึง 14% เมื่อเทียบกับอัตราโดยทั่วไปในท้องตลาดที่ 2% อีกทั้งนาย Joel Reis ผู้ซึ่งเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ของทางบริษัทยังได้เปิดเผยถึงจำนวน Wallet ที่ได้มีการเปิดใช้งานแล้วกว่า 200,000 กระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเรายังคงต้องคอยดูต่อไปสำหรับสกุลเงินเบื้องหลังบราวเซอร์นี้ว่าจะมีทิศทางการเคลื่อนไหวราคาตามความนิยมที่เพิ่มขึ้นนี้หรือไม่
ที่มา : CCN
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น