<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้เชี่ยวชาญชี้ การร่วงลงของราคา Bitcoin ล่าสุดอาจเกิดจากรัฐบาลจีน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นาย Brian Kelly ผู้ก่อตั้ง Brian Kelly Capital อ้างว่าการปราบปรามคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศจีนนั่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ราคา Bitcoin ได้ร่วงลดลงอยู่ในขณะนี้ โดยเขากล่าวว่าตอนนี้เราอยู่ท่ามกลาง ‘การแข่งขันของสกุลเงินดิจิทัล’ 

การกวาดล้างคริปโตเคอเรนซี่ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ซึ่งดูเหมือนว่าการผลักดันเทคโนโลยีบล็อกเชนของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงก่อนหน้านี้จะไม่ได้ส่งผลดีต่อคริปโตมากนัก เพราะในความเป็นจริงแล้วนโยบายของจีนคือ ‘การผลักดันเทคโนโลยีบล็อกเชนไม่ใช่ คริปโตเคอเรนซี่’ ดังนั้นมันจึงส่งผลทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงในเวลาต่อมา

การปราบปรามคริปโตของจีนเป็นสาเหตุทำให้ราคา Bitcoin ร่วง

ในระหว่างการสัมภาษณ์ล่าสุดกับทาง CNBC นาย Brian Kelly อ้างว่าการที่รัฐบาลจีนได้ตรวจสอบกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่อย่างเข้มงวดนั่นได้ส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin อย่างรุนแรง “สิ่งนี้ได้ทำให้นักเทรดเริ่มเทขายเหรียญ จากนั้นราคาก็เริ่มร่วงลดลงกว่า 16% ในสัปดาห์นี้” โดยนาย Kelly ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ว่า นักขุดบางคนที่มีต้นทุนสูงหรือกำลังอยู่ที่จุดคุ้มทุนนั่นได้เลือกที่จะประกาศยอมแพ้ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคา Bitcoin อย่างมหาศาล

ความสนใจในคริปโตเคอเรนซี่ คริปโตเคอเรนซี่ของสถาบันนั่นยังคงเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังมีอุปสรรคที่สำคัญบางอย่าง ในขณะที่นักลงทุนเหล่านี้ต่างเริ่มทยอยเข้ามา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีการดำเนินการที่ล่าช้า แต่อย่างไรก็ตามในปีนี้ทาง CFTC ได้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าทั้ง Bitcoin และ Ethereum จะได้รับการพิจารณาให้เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ส่วนคริปโตเคอเรนซี่ตัวอื่น ๆ ของตลาดนั่นยังคงต้องรอการพิจารณาต่อไป

นาย Kelly เชื่อว่าการร่วงลงของราคา Bitcoin ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั่นเกิดขึ้นจากสามประเด็นหลัก ๆ ซึ่งก็คือ การปราบปราม Bitcoin ของจีน , การประกาศยอมแพ้ของเหล่านักขุด และปัญหาด้านกฎระเบียบในประเทศจีน

BISS

อะไรที่จะเกิดขึ้นต่อไป

ดูเหมือนว่าจีนจะยังคงไม่ท่าทีที่จะยอมรับคริปโตเคอเรนซี่ในขณะนี้ เพราะพวกเขาต้องการที่จะสนับสนุนเทคโนโลยี บล็อกเชน ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ แต่อย่างไรก็ตามเราทราบกันดีว่าคริปโตเคอเรนซี่นั่นเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการใช้งานเทคโนโลยีบล็อกเชนทั่วโลกและไม่สามารถถูกควบคุมได้โดยประเทศใดประเทศหนึ่ง ดังนั้นในท้ายที่สุดการเป็นปรปักษ์กับสกุลเงินดิจิทัลของจีนจะต้องจบลงอย่างแน่นอน

แม้จะมีความไม่แน่นอนหลายอย่างเกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่สิ่งมองที่ได้ชัดเจนที่สุดก็คืออุตสาหกรรมนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเราก็คงเฝ้ารอดูกันต่อไปว่าการเติบโตในครั้งนี้จะส่งผลต่อรัฐบาลทั่วโลกอย่างไร

ที่มา : beincrypto

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น