ท่ามกลางกระแสเทคโนโลยี Blockchain และเหรียญ Cryptocurrency ที่กำลังเข้าไปในกลุ่มกระแสหลักทั่วโลกในขณะนี้ ดูเหมือนว่าหลาย ๆ ประเทศนั้นกำลังเริ่มที่จะมีโครงการเหรียญคริปโตของตัวเองขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น จีน, เกาะบริติชเวอร์จิน, ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ไทยเราเองก็ด้วยเช่นกัน ทว่าสำหรับประเทศฝรั่งเศสที่กำลังเพิ่งจะเข้าไปพูดคุยกับทางสหภาพยุโรปเมื่อไม่นานมานี้นั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน
สกุลเงินดิจิทัลของประเทศฝรั่งเศส
โพสต์ล่าสุดบนเว็บไซต์ Decrypt นั้นได้เผยว่ากระแสของเหรียญ Libra ของ Facebook และเหรียญคริปโตหยวนของรัฐบาลจีนนั้นกำลังเริ่มที่จะเลือนหายไป
แต่สิ่งที่มันทิ้งไว้ก็คือความตื่นตัวของรัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลกต่อการสร้างเหรียญ stablecoin ขึ้นมาเอง ทว่า stablecoin ของพวกเขานั้นดูเหมือนว่าจะเป็นแบบ centralized เสียมากกว่า
ล่าสุด นาย François Villeroy de Galha หรือผู้ว่าฯ ธนาคารกลางฝรั่งเศสนั้นกำลังเป็นผู้นำในด้านการเปลี่ยนแปลงนี้ และเขานั้นก็กำลังพยายามพูดคุยกับธนาคารและสถาบันการเงินใหญ่ ๆ เพื่อโน้มน้าวให้พวกเขาทำการทดสอบเหรียญคริปโตที่ทางธนาคารกลางจะเป็นผู้สร้างขึ้นมาเอง ในขณะเดียวกัน ตัวเเขาเองนั้นก็เป็นผู้จัดการกำจัดคู่แข่งเหรียญ stablecoin อื่น ๆ ในตลาดอย่างเช่น Libra เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ
สหภาพยุโรปเสี่ยงล้าหลัง
คำถามที่ตามมาก็คือ ทำไมฝรั่งเศสนั้นต้องการที่จะผลักดันโครงการดังกล่าวให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว? คำตอบที่ตามมาก็คือ การแข่งขันนั่นเอง ซึ่งหากลองย้อนไปดูเมื่อตอนที่ Libra ประกาศเปิดตัวนั้น ประเทศจีนก็ได้มีการออกมาประกาศว่าต้องการเป็นผู้นำด้าน Blockchain ของโลก ส่งผลทำให้ทั่วทั้งโลกก็ต้องหันมาจับตามองเทคโนโลยีนี้ เพราะไม่ต้องการที่จะให้ประเทศมหาอำนาจอย่างจีนกระโดดหนีไปไกลมากกว่านี้
ก่อนหน้านี้เรามักจะมีคำพูดที่ติดปากว่า “เทคโนโลยี Blockchain นั้นจะมาเปลี่ยนแปลงโลก” ทว่าเรานั้นก็ไม่รู้ว่ามันจะมาทำได้อย่างไร และแบบไหน
ทว่าในตอนน้เราเริ่มมองเห็นแล้วว่ารัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศนั้นเริ่มที่จะมีการนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวไปประยุกต์ และปรับใช้แล้ว
หากผู้นำโลกอย่างสหภาพยุโรปและสหรัฐฯนั้นไม่รีบผลักดันเทคโนโลยีดังกล่าวแล้วล่ะก็ พวกเขาจะต้องเสี่ยงล้าหลังประเทศอย่างจีนแน่นอน ตามที่เราได้เห็นในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาว่า ใครทำได้สำเร็จก่อน คนนั้นจะเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์
ดังนั้นหากเราลองวิเคราะห์ดูความเคลื่อนไหวของฝรั่งเศสดี ๆ แล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขานั้นไม่อยากที่จะพลาดกระแสนี้ และอาจจะมาเป็นประเทศแรกของโลกก็ได้ที่เปิดตัวเหรียญ Cryptocurrency ของตัวเอง และนำมันมาบังคับใช้ในวงกว้าง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น