หนึ่งในข้อดีของ Cryptocurrency คือการที่เทคโนโลยีของมันสามารถอัปเกรดได้อย่างตรงจุด เพราะเกิดจากการร่วมงานกันของทางชุมชนที่ใช้งานจริง ๆ และนักพัฒนา หลังจากที่มีการประชุมหารือกันมานาน ในที่สุดการอัปเกรดครั้งใหญ่อีกอันหนึ่งของ Ethereum ก็ได้มาถึงแล้ว
ล่าสุด Ethereum เหรียญคริปโตที่มีมูลค่าโดยรวมมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในตลาดก็ได้ทำการ Hard Fork อีกครั้งหนึ่งแล้ว โดยการ Hard Fork ครั้งนี้มีชื่อว่า ‘Istanbul’ ซึ่งจะมีการอัปเกรดแยกข้างในใหญ่ ๆ ประมาณ 6 อย่างด้วยกัน และทำการอัปเกรดไปแล้วในบล็อกหมายเลข 9,069,000
การ Hard Fork หมายถึงการเปลี่ยนแปลงอัปเกรด Protocol ครั้งใหญ่ของเครือข่ายนั้น ๆ เพื่อที่จะสร้างกฎใหม่ที่เป็นตัวบ่งบอกว่าบล็อกและธุรกรรมไหนในเครือข่ายถูกต้อง ด้วยความที่ Blockchain นั้นมีคุณสมบัติของ Decentralized อยู่แล้ว ทำให้ชุมชนของเหรียญนั้น ๆ ต้องประสานงานร่วมกัน เช่นเดียวกับฝั่งนักพัฒนาเหรียญเพื่อที่จะตกลงกันว่า จะทำการเพิ่มอะไรเข้ามาใหม่ และนำการปรับเปลี่ยนนั้นไปใส่ใน Client
สาเหตุที่มันเรียกว่าการ Hard Fork นั้นก็มาจากการที่ชุมชนบางส่วนอาจไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ก็สามารถตัดสินใจ ‘แยก’ ออกไปเพื่อสร้างเหรียญนั้น ๆ ในเวอร์ชันที่พวกเขาคิดว่าควรจะเป็นได้ เช่น Bitcoin Cash ทำการ Hard Fork ออกมาจาก Bitcoin เนื่องจากเห็นว่า การอัปเกรด SegWit นั้นไม่ใช่ทางที่ถูก และเลือกที่จะอัปเกรดด้วยการเพิ่มขนาด Block ของ Bitcoin แทนนั่นเอง
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน Ethereum มีการ Hard Fork มาแล้วกว่า 7 ครั้ง ซึ่งรวมไปถึง Constantinople, Spurious Dragon และ Byzantium
รายละเอียดการอัปเกรด
สำหรับรายละเอียดการอัปเกรดในครั้งนี้ ทาง Siam Blockchain เคยเขียนบทความรายงานไปแล้ว สามารถไปอ่านรายละเอียดเต็ม ๆ ได้ที่บทความ Ethereum เตรียม Hard fork เป็น Istanbul ในอีก 10 กว่าชั่วโมง อะไรคือสิ่งที่ควรรู้
ชุมชน Ethereum ต้องทำอะไรบ้างไหม?
สำหรับผู้ที่ฝาก Ethereum ไว้กับเว็บเทรดคริปโต หรือผู้ให้บริการ Wallet ต่าง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร ยกเว้นแต่ว่าทางแพลตฟอร์มที่เราฝากไว้แจ้งมาว่าต้องทำ
ในทางกลับกัน สำหรับนักขุด หรือผู้ให้บริการ Node ของ Ethereum ต้องทำการอัปเกรด Client ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพื่อที่จะรัน Istanbul ได้ และถ้าไม่ทำแบบนั้น จะสามารถเข้ามามีส่วนร่วมใน Chain ที่อัปเกรดแล้วของ Ehtereum ได้
ในส่วนของนักพัฒนา ก็ควรลองทบทวน EIP ต่าง ๆ ว่า ตอนนี้มี Smart Contract อันไหนที่ได้รับผลกระทบจากการอัปเกรดนี้ไหม ถ้ามีก็ให้ทำการอัปเกรดให้เรียบร้อย
ต่อไป ก็ต้องติดตามว่าการอัปเกรดครั้งนี้จะเสถียร หรือมีบั๊กตรงไหนไหม เพราะในอดีตก็มีบ่อยครั้งที่มีเมื่อเหรียญมีการอัปเกรดมักจะมีช่องโหว่เล็ก ๆ น้อย ๆ โผล่ออกมาทำให้ผู้ไม่หวังดีแฮ็กเอาเหรียญไปจากระบบได้ หรือแม้กระทั่งเว็บเทรดเองก็โดนผลกระทบเช่นกัน เพราะทำให้แฮ็กเกอร์สามารถเจาะเข้าไปใน Wallet ของเว็บนั้นได้เลยจนเกิดความเสียหายใหญ่โต
ดูจากข่าวทั่วโลกในตอนนี้ ก็คาดว่าเรียบร้อยดี และอีกจุดที่น่าสนใจคือราคาของมันค่อนข้างนิ่ง ไม่ส่งผลอะไรมากนักอย่างที่หลาย ๆ คนคาดไว้
อ้างอิงจาก CoinMarketCap ในขณะที่รายงานอยู่นี้ Ethereum มีมูลค่าอยู่ที่ 149 ดอลลาร์ ลดลง 0.12 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณการเทรดโดยรวมอยู่ที่ 5,961 ล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Ethereum มีมูลค่าโดยรวมที่ 16,220 ล้านดอลลาร์
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น