จากการวิเคราะห์ล่าสุดเกี่ยวกับราคาบิทคอยน์ในระยะยาว ไปจนถึงเรื่องการขยายตัวของแพลตฟอร์ม Binance ที่ช่วยให้ผู้คนในยุโรปสามารถเข้าถึงการเทรดได้มากขึ้น ซึ่งนี่คือเรื่องราวบางส่วนของโลกคริปโตเคอเรนซี่
Bitcoin (BTC)
นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังกล่าวว่าจุดต่ำสุดของราคาในปี 2019 นั้นกำลังจะเผยให้เห็นถึงเป้าหมายราคาในระยะยาวของ BTC
เมื่อเร็ว ๆ นี้นักวิเคราะห์ที่ทุกคนรู้จักกันดี ‘Dave the Wave’ ได้เปิดเผยให้เห็นถึงกราฟราคาในระยะยาว ซึ่งเขาได้ระบุว่าจุดต่ำสุดของราคา BTC ในปี 2019 นั้นจะอยู่ที่ราว ๆ 6,000 ดอลลาร์
โดยเขาได้ใช้โมเดล ‘logarithmic growth curve’ มาช่วยในการวาดกราฟ BTC ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่า BTC จะสามารถพุ่งไปถึงระดับ 100,000 ดอลลาร์ได้ภายในปี 2022
แต่ในระยะสั้น ‘Horn Hairs’ นักลงทุนคริปโตและนักกลยุทธ์ด้านเทคนิค เขาคาดว่า BTC นั้นมีแนวโน้มที่จะร่วงลงต่อ หลังจากที่ราคาถูกปฏิเสธแถว ๆ 7,635 ดอลลาร์
หลังจากที่ Bitcoin ล้มเหลวในการเบรคทะลุเหนือแนวต้านที่สำคัญ เขาระบุว่าการมาของสัญญาณ bearish divergence และสัญญาฟิวเจอร์สของ CME ที่กำลังจะหมดอายุลงนั้นได้แสดงเห็นแล้วว่าการเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
“สัญญาณ bearish divergence ควบคู่ไปกับการถูกปฏิเสธราคาอย่างรุนแรงหลังจากที่ราคาได้ขึ้นไปทดสอบแนวต้านนั้น
ผมคิดว่าเราจะได้เห็นการร่วงของราคาที่นี่ นอกจากนั้นแล้วยังมีเรื่องของสัญญา CME ที่กำลังจะหมดอายุลง ซึ่งดูเหมือนว่ามันมักจะส่งผลกระทบต่อราคาในเชิงลบเสมอ”
Ethereum (ETH), XRP, and Binance Coin ( BNB)
ในขณะเดียวกระดานเทรดเบอร์หนึ่งของโลก Binance ก็กำลังเพิ่มทางเลือกให้ผู้คนซื้อคริปโตได้ง่ายมากขึ้น
หนึ่งวันหลังจากที่พวกเขาได้ประกาศสนับสนุนสกุลเงิน ‘lira’ ของตุรกี Binance ก็ได้เสนอทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการซื้อคริปโตเคอเรนซี่ด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิตวีซ่า
“Binance จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานผูกบัตรวีซ่ากับบัญชีของพวกเขาและซื้อคริปโตได้โดยตรงที่ Binance.com
เพื่อเข้าถึงบริการเหล่านี้ผู้ใช้สามารถไปที่หน้า ‘Buy Crypto’ เลือกสกุลเงิน EUR หรือ GBP คลิก Next จากนั้นคลิก ‘Add Card’ เพื่อผูกบัตรวีซ่า”
นอกจาก Bitcoin แล้วผู้ใช้ยังสามารถใช้บัตรวีซ่าของพวกเขาสามารถซื้อเหรียญคริปโตชั้นนำได้อีก 3 สกุล ซึ่งก็คือ Ethereum (ETH) , XRP และ Binance Coin (BNB)
อย่างไรก็ตามสำหรับตอนนี้ Binance กล่าวว่าฟีเจอร์จะรองรับเฉพาะบัตรวีซ่าที่ออกในเขตเศรษฐกิจยุโรปเท่านั้น แต่มันอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
Cardano (ADA)
IOHK ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังโปรเจคเหรียญคริปโต Cardano กล่าวว่าพวกเขาได้มีการอัพเดท testnet ตัวใหม่ที่จะช่วยกระตุ้นแรงจูงใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนปีใหม่
testnet ดังกล่าวจะช่วยให้ผู้คนได้รับผลตอบแทนจากการถือเหรียญ ADC ของ Cardano เมื่อพวกเขามีส่วนร่วมในเครือข่าย , สร้างโหนดและทำการตรวจสอบธุรกรรม
“เราเพิ่งเผยแพร่ Daedalus (v2.0.1-ITN1) เวอร์ชั่นใหม่ออกไปเพื่อช่วยกำจัดข้อผิดพลาดบางอย่าง รวมถึงสิ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อยอดคงเหลือและหน้าจอ stake pool ของผู้ใช้บางราย ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ Incentivized Testnet”
นาย Charles Hoskinson ผู้สร้างเหรียญ Cardano กล่าวว่าจนถึงขณะนี้ testnet ได้ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ด้วย stakepools อิสระที่ลงทะเบียนไปแล้วมากกว่า 340 รายและมีการ staking ในเหรียญ ADA ไปแล้วกว่า 1 พันล้านเหรียญ
ที่มา : dailyhodl
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น