ล่าสุดนาย John McAfee ผู้โด่งดังในวงการคริปโตนั้นได้ออกมากล่าวผ่านโพสทางบัญชีทวิตเตอร์ของเขา โดยได้กลับลำการคาดการณ์ที่ได้กล่าวไว้ในช่วงหลายปีก่อนว่าหากเหรียญ Bitcoin นั้นจะมีมูลค่าไม่ถึง 1 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2020 ตัวเขาจะทำการกินน้องชายตัวเองผ่านทีวีนั้นเป็นเพียงแต่กลยุทธ์ในการดึงดูดผู้คนเข้าสู่ตลาดเท่านั้น
Eat my dick in 12 months?
A ruse to onboard new users. It worked.
Bitcoin was first. It's an ancient technology. All know it.
Newer blockchains have privacy, smart contracts, distributed apps and more.
Bitcoin is our future?
Was the Model T the future of the automobile?
— John McAfee (@officialmcafee) January 5, 2020
ท้าวความถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวการคาดการณ์ดังกล่าวนั้น ในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2017 ซึ่งเป็นช่วงก่อนหน้าที่ราคาของเหรียญ Bitcoin นั้นจะพุ่งแตะจุดสูงสุดตลอดกาล ตัวเขานั้นได้ออกมากล่าวผ่านหน้าโพสทวิตเตอร์ของเขาถึงการคาดการณ์ราคาในช่วงสิ้นปี 2020 ว่า Bitcoin นั้นจะมีราคาสูงถึง 500,000 ดอลลาร์ ซึ่งต่อมาตัวเขานั้นได้เปลี่ยนแปลงช่วงราคาดังกล่าวไปที่ 1 ล้านดอลลาร์ โดยหากไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์นี้ ตัวเขาจะทำการกินน้องชายตัวเองผ่านทีวีเลยทีเดียว
นอกจากนี้แล้วตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น นาย John McAfee ยังได้มีการแสดงความคิดเห็นต่างๆมากมายโดยมีจุดยืนข้างตนเป็นศูนย์กลางเสมอๆ โดยก่อนหน้านี้ตัวเขายังได้กล่าวว่าราคาเหรียญดังกล่าวนั้นจะขึ้นไปแตะจุดตั้งกล่าวได้ก่อนช่วงสิ้นปี 2019 เสียอีกด้วย ซึ่งหากจะให้เกิดขึ้นจริงนั้น ราคาเหรียญดังกล่าวนั้นต้องมีการเพิ่มขึ้นของราคาหลายสินเท่าตัวจากในปัจจุบันภายในปี 2020 นี้เพื่อให้ตัวเขาไม่เสียน้องชายตัวเองกับการคาดการณ์ราคา Bitcoin ที่ผิดพลาดนั่นเอง
เพื่อเป็นการสร้างความตื่นเต้นให้กับการคาดการณ์ดังกล่าว ผู้คนในวงการบางรายถึงขั้นเปิดเว็บไซต์โดยเฉพาะสำหรับการนับถอยหลังถึงการพ่ายแพ้ของนาย John McAfee ในชื่อ Dikening.com ซึ่งเป็นการล้อเลียนโดยการนำคำว่าน้องชายในภาษาอังกฤษมาล้อกับเหตุการณ์สำคัญของการ Bitcoin อย่างการ Halving ของเหรียญในช่วงไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้นั่นเอง แต่กรณีดังกล่าวคงไม่น่าสนใจอีกต่อไปหลังจากการออกมากลับคำของนาย McAfee
บางส่วนจากโพสล่าสุดของตัวเขานั้นยังได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวคิดของเขา จากคนที่เคยเป็นผู้ชื่นชอบใน Bitcoin อย่างแรงกล้า กลายเป็นผู้ที่ออกมากล่าวว่าเหรียญดังกล่าวนั้น “ใช้เทคโนโลยีที่ล้าหลัง” โดย Bitcoin นั้นเปรียบเสมือนรถยนต์อย่าง Ford model T ซึ่งเป็นรถรุ่นแรกๆที่ใครๆก็สามารถเป็นเจ้าของได้ ซึ่งเหรียญใหม่ๆรวมทั้งเทคโนโลยี Smart Contract นั้นจะเข้ามาแทนที่ Bitcoin ได้ในที่สุด
Monero
— John McAfee (@officialmcafee) January 5, 2020
ซึ่งจากการแสดงความเห็นดังกล่าวของนาย John McAfee ผู้คนในวงการก็ได้พยายามที่จะนำเสนอเหรียญต่างๆซึ่งพวกเขาชื่นชอบเพื่อให้นาย John McAfee ทำการชี้ว่าเหรียญใดจะกลายเป็นผู้นำของวงการต่อไป ซึ่งในที่สุดแล้วตัวเขาก็ได้หยิบยกหนึ่งในเหรียญที่น่าสนใจอย่าง Monero ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการนำเสนอความเป็นอิสระจากการตรวจสอบการระบุตัวตนของผู้ทำธุรกรรมขึ้นเป็นเหรียญที่น่าจับตามอง แต่ทั้งนี้เหรียญดังกล่าวนั้นก็เป็นหนึ่งในเหรียญที่ทางรัฐบาลนั้นกดดันผู้ดำเนินธุรกิจ Exchange ให้ทำการปลดเหรียญออกจากการให้บริการเนื่องจากไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องนั่นเอง
ที่มา : u.today
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น