FTX เป็นอีกหนึ่งเว็ปเทรดคริปโตฟิวเจอร์ที่สร้างขึ้นมาเพิ่อการเทรดคริปโตโดยเฉพาะ แพลตฟอร์มนี้เป็นการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์ที่เหมาะนักเทรดระดับมืออาชีพและสำหรับนักลงทุนมือใหม่ทุกคน โดยในแพลตฟอร์มนี้จะมีทั้งการเทรดแบบเลเวอเรจ , การแลกเปลี่ยนแบบ OTC , การเทรดสัญญาฟิวเจอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ทางเว็ปเทรด FTX เพิ่งได้มีการเปิดตัวฟีเจอร์การซื้อขายแบบใหม่ที่เรียกว่า Bitcoin Option ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถซื้อหรือขายสัญญาได้แบบเรียลไทม์และไม่มีข้อผูกมัดในการขายสัญญาใด ๆ ที่ขึ้นอยู่กับวันหมดอายุ
นาย Sam Bankman CEO ของเว็ปเทรด FTX ได้โพสต์ในทวีตเตอร์ล่าสุดว่า “ซื้อขายสัญญา Option เปิดตัวได้ 2 ชม.แล้ว” ซึ่งนั่นได้สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าบรรดาผู้ใช้เป็นจำนวนมาก
Options launching on FTX in 2 hours!https://t.co/B85lrLVDQO
— SBF (@SBF_Alameda) January 11, 2020
ในช่วงเวลา 2 ชั่วโมงหลังจากที่เว็ปเทรดได้การเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่นี้ วอลุ่มการซื้อขายสัญญา Bitcoin Option ก็พุ่งขึ้นทันทีแตะระดับ 1 ล้านดอลลาร์ ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่นี้เห็นได้ชัดว่ามันได้การตอบรับที่ดีเยี่ยมจากเหล่าบรรดานักเทรดคริปโต โดยในขณะที่รายงานวอลุ่มการซื้อขายสัญญา Option บนเว็ปเทรด FTX กำลังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากตารางการเปรียบเทียบเว็ปเทรดสัญญาฟิวเจอร์เราจะเห็นได้ว่า FTX มีอันดับต่ำกว่า เว็ปเทรดสัญญาฟิวเจอร์ชื่อดังอย่าง CME เพียงแค่อันดับเดียวเท่านั้น ดังนั้นไม่แน่เว็ปเทรดของ FTX อาจจะมีวอลุ่มซื้อขายแซง CME ได้ในเร็ว ๆ นี้
ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าเว็ปเทรด FTX ยังได้รับการสนับสนุนจากเว็ปเทรดคริปโตเบอร์หนึ่งของโลก Binance อีกด้วย ซึ่งหากย้อนกลับไปดูรายงานเมื่อเดือนธันวาคม 2019 เราจะเห็นได้ว่า Binance ได้ลงทุนเป็นเงินจำนวนหลาย 10 ล้านดอลลาร์ในแพลตฟอร์มคริปโตฟิวเจอร์ของ FTX
เทรนด์การซื้อขายสัญญา Option กำลังจะมา
นอกเหนือจากเว็ปเทรด FTX ที่เพิ่งเปิดตัวสัญญา Option ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้แล้ว ยังมีเว็ปเทรดอื่น ๆ ที่ได้เปิดตัวสัญญา Option ไปแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Bakkt ที่เพิ่งเปิดตัวการซื้อขาย Bitcoin Option ไปเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาและ CME ที่กำลังจะตามมาติด ๆ โดยมีกำหนดเปิดตัวการซื้อขายสัญญา Option ในวันที่ 13 มกราคมนี้
ในปี 2020 นี้ มันจะเป็นปีน่าตื่นเต้นสำหรับคริปโตเคอเรนซี่ ด้วยฟีเจอร์การซื้อขายสัญญาฟิวเตอร์แบบใหม่และกลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่ที่กำลังก้าวเข้ามา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวผลักดันให้ตลาดคริปโตเคอเรนซี่เติบโตเพิ่มมากขึ้น
ที่มา : eng.ambcrypto
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น