<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อัตราแรงขุดเหรียญ Bitcoin พุ่งทะลุทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์อีกครั้ง หลังการปรับค่า Difficulty

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลอย่างบริษัท CoinMetrics นั้นแสดงให้เห็นว่า Hash rate หรืออัตราการขุดเหรียญบนเครือข่าย Blockchain สำหรับ Bitcoin นั้นได้มีการเพิ่มขึ้นจนแตะเพดานของจุดสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ที่ 14.8 Terahashes โดยคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากที่ระดับความยากของการขุดเหรียญ (Difficulty) นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงล่าสุด ซึ่งคิดเป็นอัตราที่มากกว่าที่เคยเป็นในช่วงต้นปี 2019 ถึงสามเท่าเลยทีเดียว

การปรับระดับความยากของการขุดเหรียญบนเครือข่ายของ Bitcoin นั้นถูกตั้งค่าไว้ให้มีการปรับระดับใหม่ในทุกๆการขุดบล๊อคครบ 2,016 บล๊อค ซึ่งคิดเป็นการปรับระดับในทุกๆช่วงสองสัปดาห์โดยเฉลี่ย ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นกลไกในการป้องกันการเฟ้อของการขุดเหรียญตามอัตราการแข่งขันกันภายในตลาดการขุดนั่นเอง

ผลจากกลไกดังกล่าวนั้นทำให้ประสิทธิภาพในการขุดเหรียญนั้นขึ้นอยู่กับศักยภาพของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ ซึ่งหากมีการขุดเหรียญได้ในเวลาอันรวดเร็วประกอบกับปริมาณที่มากขึ้นในระบบ การเพิ่มระดับความยากให้เพิ่มขึ้นนั้นส่งผลให้เหรียญที่ได้นั้นสามารถได้มากยากขึ้น และเป็นการปรับสมดุลราคาของตัวเหรียญ Bitcoin เองอีกด้วย 

อย่างไรก็ตามทางบริษัท CoinMetrics นั้นได้ออกมากล่าวผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ของพวกเขาถึงกราฟซึ่งแสดงรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของทั้งอัตราการขุดในระบบและระดับความยากของการขุดตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยพวกเขาได้กล่าวว่าแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงบนกราฟของระดับความยากในการขุดนั้นจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เป็นการเพิ่มขึ้นที่ไม่ราบรื่นเท่าไหร่นัก

นอกจากนี้แล้วอัตราการขุดที่เพิ่มขึ้นในระบบนั้นยังหมายถึงการแข่งขันที่ยังคงดุเดือดสำหรับวงการการขุดเหรียญ Bitcoin ก่อนการมาถึงของเหตุการณ์สำคัญอย่างการลดรางวัลการขุดเหรียญลงครึ่งหนึ่งหรือที่เรียกว่าการ Halving ในช่วงไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้ ซึ่งตัวเลขอัตรากรขุดในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าเหล่านักขุดยังคงมุ่งกอบโกยกันอย่างเต็มที่ก่อนที่ตลาดจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ซึ่งอาจทำให้เหล่าผู้ประกอบการขนาดกลางหรือขนาดเล็กนั้นต้องออกจากตลาดไปด้วยเหตุผลทางด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้อัตราการขุดเหรียญในช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงนั้นคือการที่ผู้ประกอบการในประเทศจีนนั้นได้ปรับลดการดำเนินการลงเนื่องจากคำสั่งของทางรัฐบาลให้ภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนนั้นลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงในช่วงฤดูแล้งนี้นั่นเอง 

ที่มา : Cryptoslate 

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น