โครงการ Kadena นั้นได้ถูกริเริ่มขึ้นในหน่วยงานเฉพาะภายในบริษัทด้านการเงินการลงทุนชื่อดังอย่าง JP Morgan ซึ่งศูนย์วิจัยของบริษัทในชื่อ Blockchain Center of Excellence นั้นนำโดยผู้บริหารอย่าง Will Martino ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าทีวิศวกรของ JP Morgan และผู้ร่วมก่อตั้งโครงการดังกล่าวอย่างนาย Stuart Popejoy นั้นทำหน้าที่เป็นประธานโครงการ
โครงการดังกล่าวนั้นมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างแพลตฟอร์ม Kadena ขึ้นมาเพื่อเป็นเครือข่าย Blockchain สำหรับการดำเนินการสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆต่อยอดบนเครือข่ายโดยอาศัยภาษา Smart Contract ซึ่งทางโครงการได้คิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะในชื่อ Pact อีกทั้งเครื่อข่ายดังกล่าวนั้นยังได้มีสกุลเงินคริปโตของตัวเองในชื่อ Kadena (KDN) โดยได้มีการขุดเหรียญเหรียญดังกล่าวขึ้นในระบบกว่า 2 ล้านบล๊อคแล้วนั่นเอง
Kadena นั้นเป็นแพลตฟอร์มซึ่งมีลักษณะเป็นลูกผสมระหว่างเครือข่ายแบบสาธารณะหรือ public blockchain และระบบเครือข่ายแบบปิดซึ่งถูกควบคุมการดำเนินการบนภาษาทางด้านโปรแกรมอย่าง Pact ซึ่งนอกจากภาษา Smart Contract แบบใหม่แล้ว เครือข่ายของ Kadena นั้นยังมีลักษณะพิเศษคือสามารถแก้ไขปัญหาด้านข้อจำกัดในการประมวลผลบล๊อคข้อมูล (Scalability) อย่างที่เกิดขึ้นกับ Bitcoin ได้
ในการแก้ปัญหาดังกล่าวนั้นทางโครงการ Kadena นั้นได้สร้างระบบเครือข่ายให้เชนของข้อมูลบนระบบนั้นมีหลายสายสำหรับแต่ละกลุ่มข้อมูล ดังนั้นแล้วการประทวลผลบล๊อคข้อมูลในแต่ละบล๊อคนั้นจึงใช้เวลาและพลังในการประมวลผลต่อวินาทีที่น้อยลง ซึ่งผลการดำเนินการนั้นเป็นที่น่าประทับใจอย่างมาก โดยเครือข่ายนั้นสามารถที่เพิ่มความสามารถในการประมวลผลได้มากถึง 1.3 terahashes ต่อหนึ่งวินาทีภายในช่วงเวลาเพียงสองเดือน ซึ่งทางฝั่งเครือข่าย Ethereum นั้นใช้เวลาถึง 7 เดือน
สำหรับภาษา Pact ของแพลตฟอร์มดังกล่าวนั้น ทางโครงการได้กล่าวว่าเป็นการสร้างภาษาในการเขียน Smart Contract ขึ้นใหม่โดยที่ผู้ใช้งานหรือหรือภาคธุรกิจซึ่งไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาคอมพิวเตอร์นั้นสามารถที่จะใช้งานและอ่านภาษาดังกล่าวได้เข้าใจ อีกทั้งยังทำให้การเขียนโปรแกรมหรือคำสั่งต่างๆลงในเครือข่ายนั้นเป็นไปอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมาและปลอดภัยมากที่สุด
ภาษาดังกล่าวนั้นในทางเทคนิคของภาษาทางการโปรแกรมนั้นเป็นชุดภาษาที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแปลชุดคำสั่งอย่างเฉพาะเจาะจง หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาแบบ Turing Incomplete ซึ่งมีความปลอดภัยและแตกต่างจากภาษา Smart Contract ของ Ethereum หรือภาษาทางคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้แปลชุดคำสั่งเพื่อสามารถใช้ได้กับภาษาและอุปกรณ์อื่นๆได้ทั้งหมดอย่างภาษาแบบ Turing Complete
ปัญหาของภาษาแบบ Turing Complete นั้นคือความซับซ้อนของตัวภาษาเองรวมทั้งความไม่ปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้จากการที่ตัวภาษานั้นเปิดกว้างแก่ชุดคำสั่งหรือชุดภาษาอื่นๆในการเขียนโปรแกรมโจมตีเครือข่ายหรือชุดคำสั่งบนภาษาดังกล่าวได้ ซึ่งตัวอย่างของภาษารูปแบบดังกล่าวคือภาษา Solidity ซึ่งใช้บน Blockchain อย่าง Ethereum นั่นเอง โดยความไม่ปลอดภัยดังกล่าวได้เกิดขึ้นมาแล้วหลายกรณีอย่างเช่นในการเจาะระบบเหรียญ DAO ไปจนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับ wallet ของทาง Parity เป็นต้น
ดังนั้นแล้วภาษา Pact ของทางโครงการ Kadena นั้นจึงเป็นเสมือนการเปิดประตูให้กับเหล่าผู้ใช้งานทั่วไป โดยเฉพาะเหล่าผู้ประกอบการและธุรกิจต่างๆในการดำเนินการสร้างแอพลิเคชั่นหรือดำเนินธุรกรรมซึ่งต้องใช้การโปรแกรมโดยเฉพาะนั้น สามารถเข้าถึงการดำเนินการดังกล่าวได้โดยง่าย ซึ่งในขณะนี้ทางโครงการ มูลนิธิ Web3 นั้นยังได้มีการพูดคุยถึงการนำภาษาดังกล่าวมาใช้บนแพลตฟอร์ม Polkadot ของพวกเขาอีกด้วย
ที่มา : decrypt
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น