<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้สร้างเหรียญ USDT เผย “ยังไหว” หลังมีคดีถูกฟ้องร้องเป็นจำนวนมาก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะนี้ Tether กำลังเผชิญกับการฟ้องร้องคดีเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุด Tether ได้รับคำร้องขอจากคณะอัยการเพื่อขอให้มีการรวมคดีเหล่านั้นเข้าไว้ด้วยกัน

“เราไม่ได้คัดค้านคำร้องขอจากโจทก์ที่จะรวมคดีการฟ้องร้องเหล่านี้ไว้ด้วยกัน สำหรับคดีในเดือนตุลาคมที่นิวยอร์ก , คดีในเดือนพฤศจิกายนที่วอชิงตันและคดีในเดือนมกราคมที่นิวยอร์ก” Tether กล่าวรายงาน

การรวมคดีของ Tether และ Bitfinex

ปัจจุบันมีหลายฝ่ายที่กำลังสงสัยว่าบริษัท Tether นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางเว็ปเทรดชื่อดัง Bitfinex ในคดีการฟอกเงินมูลค่ากว่า 850 ล้านดอลลาร์และดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เล่นตามกติกา

ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดนิวยอร์กได้ออกมากล่าวหาเว็บผู้ให้บริการซื้อขายเหรียญคริปโต Bitfinex ว่าพวกเขาได้สูญเงินไปถึง 850 ล้านดอลลาร์ และได้ใช้เหรียญ stablecoin อย่าง Tether ( USDT) มาโปะเพื่อที่จะปกปิดการสูญเสียจำนวนเงินดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่เป็นของลูกค้าและทางบริษัท นอกจากนี้เงินจำนวนดังกล่าวก็ไม่ได้ถูกนำมารายงานให้กับลูกค้าได้ทราบแต่อย่างใด

จนกระทั่งในวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ที่ปรึกษาด้านกฎหมายในคดีนี้ (ฝั่งโจทก์) นาย Leibowitz, Young และ Faubu ได้ยื่นรายงานต่อศาล เพื่อขอให้มีการรวมคดีข้อพิพาททั้งสามเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่ง Tether คาดว่าในการฟ้องร้องคดีชั้นที่สี่ที่นิวยอร์กในช่วงเมื่อวานนี้อาจเป็นการรวมคดีทั้งหมดเข้าไว้เป็นคดีเดียวกัน

Tether ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ในขณะเดียว Tether ก็ยังให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ใช้ USDT เพื่อปั่นราคา Bitcoin ในช่วงปี 2017 และยังอ้างด้วยว่า รายงานวิจัยฉบับดังกล่าวที่เขียนโดยนาย John M. Griffin และ นาย Amin Shams นั้นมีแรงจูงใจที่จะโจมตี Tether และ Bifinex :

“รายงานวิจัยของ Griffin และ Shams ที่ได้เผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ยังคงมีจุดบกพร่อง โดยเอกสารดังกล่าวถูกแก้ไขใหม่แล้วและนั่นเป็นการกระทำที่น่าอับอายมาก”

อย่างไรก็ตามแม้ Tether จะมีข่าวลือมากมายและคดีอีกนับไม่ถ้วนในศาล ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับกิจกรรมการซื้อขายสำคัญ ๆ บนกระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลขนาดใหญ่ แต่ราคา Bitcoin กลับไม่สะทกสะท้านกับเรื่องที่เกิดขึ้นและราคาของมันยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเข้าใกล้ระดับราคา 9,000 ดอลลาร์

ที่มา : cointelegraph

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น