<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สาเหตุที่ทำให้ราคาเหรียญ Ethereum พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นับตั้งแต่ที่เราได้เข้าสู่ช่วงปี 2020 เป็นต้นมาเหรียญคริปโตเคอเรนซี่เบอร์ 2 ของโลกอย่าง ‘ Ethereum’ ก็ได้มีราคาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวและมีมูลค่าตลาดโดยรวมพุ่งแตะสูงสุดในรอบ 7 เดือนอีกด้วย ซึ่งนั่นได้ทำให้หลาย ๆ คนตั้งคำถามกันว่าราคาของ ETH จะสามารถพุ่งขึ้นมาแตะระดับ $ 300 ภายในปีนี้ได้หรือไม่ ? 

ราคา ETHEREUM เพิ่มขึ้นสองเท่าในปี 2020

ก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม 2019 ราคาของ Ethereum ได้ร่วงลดลงแตะจุดต่ำสุดอยู่ที่ระดับ $120 ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของนักลงทุนมากมาย อย่างไรก็ตามในปีนี้ดูเหมือนว่านักลงทุนจะสามารถกลับมายิ้มได้อีกครั้ง หลังจากที่ราคา Ethereum ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วอยู่ที่ $ 275 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน

ในวันนี้ราคา Ethereum ได้พุ่งขึ้นแซงพี่ใหญ่ Bitcoin อย่างไม่เห็นฝุ่น โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 12% ซึ่งหลายคนมองว่า Ethereum จะมุ่งหน้าไปสู่ระดับ $ 300 ในเร็ว ๆ นี้ ได้แน่นอน

ครั้งสุดท้ายที่ ETH มีการเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ก็คือ ช่วงเดือนพฤษภาคมของปีที่แล้วโดยที่ราคาได้พุ่งขึ้นจากระดับ $ 150 ไปเป็น $ 260 ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์หรืออาจมากกว่านั้น แต่สำหรับเดือนนี้เพียงอย่างเดียว เราจะเห็นได้ว่าราคานั้นได้พุ่งขึ้นกว่า 50% หรือคิดเป็นการพุ่งขึ้นมากว่าเท่าตัว เมื่อเทียบจากราคาของช่วงต้นปี

ดูเหมือนการเคลื่อนไหวของราคาที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรุนแรงนั้นจะเกิดขึ้นหลังจากที่มีข่าวการประกาศร่วมมือกับบริษัท Ethereum blockchain ConsenSys ของ JPMorgan ไปในช่วงเมื่อวานนี้

นักวิเคราะห์ Crypto ชื่อดัง ‘dave the wave’ ได้ร่วมแบ่งปันการวิเคราะห์ราคาของเขา โดยเมื่อดูจากระดับ retracement บนกราฟของ Eth เราจะเห็นได้ว่าตอนนี้เป็นช่วงเข้าซื้อที่สำคัญก่อนที่ราคาของ Eth จะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

โดยเขาได้ตั้งข้อสังเกตุว่า ETH มีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นไปทำลายสถิติสูงสุดเดิมของปีที่แล้วที่ประมาณ $ 350 ก่อนที่จะปรับฐานราคาลงมาอยู่ที่ $ 237

สาเหตุที่ทำให้ราคาของ Ethereum ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง

นอกเหนือจากข่าวการประกาศร่วมมือกับบริษัท Ethereum blockchain ConsenSys ของ JPMorgan ของ JPMorgan แล้ว ในช่วงเมื่อวานนี้ ตลาด DeFi ยังได้ช่วยผลักดัน ราคาของ Ethereum ด้วยอีกแรง ซึ่งปัจจุบันธนาคารของหลาย ๆ ประเทศนั้นกำลังตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับอัตราดอกเบี้ยที่ติดลบทำให้นักลงทุนที่มีความรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีต้องมองหาสถานที่การออมเงินแห่งใหม่

ในขณะเดียวกันอัตราการออมเงินของเหรียญ DAI และตัวเลือก DeFi อื่น ๆ ก็สามารถนำเสนออัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าธนาคารหลายร้อยเท่า แถมยังมีความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำ

อีกทั้งยังมีเรื่องของ Proof-of-Stake ที่เป็นความหวังของชุมชน Ethereum ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นได้อีกในอนาคต เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมองเห็นว่ามันยังมีวิธีการทำเงินอีกมากมายจากระบบกระจายอำนาจทางการเงินแห่งใหม่นี้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น