อย่างที่ทราบกันดีถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งส่งให้สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกนั้นชะลอตัวลงอย่างมากรวมถึงการที่ตลาดการเงินนั้นมีมูลค่าลดลงอย่างมหาศาล ถึงขนาดที่ทางฝั่งตลาดหุ้นของสหรัฐฯนั้นต้องมีการหยุดการซื้อขายชั่วคราวเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ราคาของสินทรัพย์นั้นร่วงลงมากเกินไปในระยะเวลาสั้นๆอีกด้วย โดยทางฝั่งของกสกุลเงินคริปโตอย่าง Bitcoin เองนั้นก็ได้รับผลกระทบจากแรงกกดดันจากตลาดดังกล่าวให้มีการลดลงของมูลค่าด้วยเช่นเดียวกัน
จากเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งเรียกได้ว่าเป็นวิกฤติเศรษฐกิจครั้งล่าสุดนั้นได้ปรากฎลักษณะของการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ต่างๆในตลาดไปในทิศทางที่ใกล้เคียงกับที่เกิดขึ้นในช่วงยุควิกฤติเศรษฐกิจในช่วงปี 2008
ซึ่งทางฝั่งของสินทรัพย์ในตลาดทุนนั้นมีมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่องสวนทางกับมูลค่าของสินทรัพย์ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำอย่างเช่นทองคำที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในเหตุการณ์ดังกล่าว
การเปรียบเทียบดังกล่าวนั้นได้มีหนึ่งในนักวิเคราะห์อย่างนาย Willy Woo โดยเขากล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงปี 2008 และในปัจจุบันมาเปรียบเทียบกันโดยได้นำตัวแปรทั้งสามอย่างดัชนีของตลาดหุ้นคือ S&P 500 มาเปรียบเทียบกับราคาทองคำ และราคาของ Bitcoin สำหรับตลาดในปัจจุบันเพื่อที่จะชี้ให้เห็นถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์เหล่านี้ต่อไป
ทั้งนี้เมื่อพิจารณากราฟซึ่งนาย Willy Woo ได้แสดงให้เห็นด้านบนนี้แล้วจะพบว่าในสองช่วงระยะเวลานั้นจะมีช่วงการเปลี่ยนแปลงของตลาดเช่นเดียวกันคือในระยะแรกที่ตลาดทุนนั้นมูลค่าลดลงจากการเทขายเพื่อเป็นการโอนย้ายเงินไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าอย่างเช่นทองคำ และในช่วงต่อมาไม่นานหลังจากนั้นที่ตลาดสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำเหล่านี้มีการทยานขึ้นของราคาและมีทิศทางตลาดแยกออกจากทิศทางเดิมของตลาดหุ้นอย่างที่เริ่มเห็นได้ในปัจจุบัน
เมื่อพิจารณาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้จะพบว่าหนึ่งในเหตุผลเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่เหล่านักลงทุนได้เริ่มมีการถอนการลงทุนออกมาเพื่อที่จะสร้างกระแสเงินสดในมือมากขึ้น จนกระทั่งในวันที่ 13 ของเดือนดังกล่าวนั้นตลาดการเงินเกือบทุกแห่งนั้นได้ร่วงลงอย่างมากนั่นเอง
อย่างไรก็ตามคำถามสำคัญสำหรับสินทรัพย์อย่าง Bitcoin นั้นคือสินทรัพย์ดังกล่าวนั้นซึ่งยังไม่เคยผ่านช่วงเวลาของวิกฤติเศรษฐกิจมากก่อนนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อไป และสินทรัพย์ดังกล่าวนั้นจะสามารถที่จะทำลายข้อเสียของตัวเองอย่างเช่นความผันผวนของราคา และสร้างบรรทัดฐานครั้งแรกนี้เพื่อพิสูจน์ว่า Bitcoin นั้นจะสามารถที่จะถูกเรียกได้ว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในยาวที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจได้หรือไม่นั่นเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น