<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ธนาคารอันดับต้น ๆ ของโลก BIS เรียกร้องให้รัฐบาลสร้าง Cryptocurrency มาใช้แทนเงินสด ท่ามกลางโรคระบาด

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อเร็ว ๆ นี้ธนาคารแห่งการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการเรียกร้องให้มีการออกสกุลเงินดิจิทัลธนาคารกลาง (CBDC) และการชำระผ่านระบบดิจิทัล ท่ามกลางช่วงที่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 

รายงานที่เผยแพร่โดย BIS ซึ่งเป็นสถาบันการเงินระหว่างประเทศที่มีสมาชิกอยู่ราว ๆ  600 รายและยังเป็นตัวแทนของธนาคารกลางทั่วโลกอีกกว่า 60 ประเทศได้เรียกร้องให้มีการพิจารณาถึงโปรเจค CBDC ของธนาคารกลาง เนื่องจากตอนนี้สถาบันเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่าผ่านวิธีการชำระเงินเดิมในปัจจุบัน

Bitcoin และคริปโตสามารถลดการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้

ก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่าBitcoin และคริปโตสามารถช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ หากนำมาใช้แทนเงินสด

ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โฆษกขององค์การอนามัยโลก (WHO) นายคริสเตียน ลินด์เมเออร์ได้แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการหยิบจับธนบัตรและเหรียญเพื่อใช้ซื้อสินค้ ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เนื่องจากธนบัตรและเหรียญถูกเปลี่ยนมือไปอย่างรวดเร็ว และอาจมีเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียติดอยู่เป็นเวลานานหลายวัน โดยระยะนี้จะปลอดภัยกว่าหากเปลี่ยนไปใช้จ่ายเงินออนไลน์หรือจ่ายผ่านบัตรเครดิตแทน

นอกจากนี้ WHO ยังได้อธิบายถึงความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสผ่านการสัมผัสกับขั้วของบัตรเครดิตและอุปกรณ์ที่ใช้กดรหัสบัตรเครดิตอีกด้วยว่า :

“หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้บ่งชี้แล้วว่า ความน่าจะเป็นของการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าผ่านการหยิบจับธนบัตรเพื่อใช้จ่ายนั้นค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับวัตถุที่เราสัมผัสบ่อย ๆ อย่างเช่นขั้วของบัตรเครดิตหรืออุปกรณ์ที่ใช้กดรหัสบัตรเครดิต (PIN PAD)”

ความต้องการเงินสดเริ่มลดลงในประเทศอังกฤษ

เมื่อเร็ว ๆ นี้รายงานระบุว่า “ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมาความต้องการเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมากในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่กำลังมองหาสินทรัพย์ที่สามารถรักษามูลค่าของพวกเขาเอาไว้สำหรับช่วงที่เกิดสถานการณ์ความแน่นอน”

ในขณะที่ BIS ได้มีการรายงานถึงการเพิ่มขึ้นของเงินสดหมุนเวียนในสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันรายงานก็ระบุด้วยว่า ความต้องการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มในประเทศอังกฤษเริ่มค่อย ๆ ลดลง 

รายงานคาดการณ์ว่าในช่วงระยะกลาง ผู้บริโภคจะเริ่มมีการถือครองเงินสดอย่างระมัดระวังกันมากขึ้นและการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ , บัตรเครดิตและการชำระเงินออนไลน์จะเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าในอดีต”   

นอกจากนี้ BIS ยังคาดการณ์ด้วยว่าสถานการณ์ในปัจจุบันอาจนำไปการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชำระเงินของธนาคารกลางเช่น CBDC ที่อาจได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามรายงานดังกล่าวได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของ CBDC ที่จะต้องออกแบบให้ครอบคลุมกับปัญหาทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะการแพร่ของเชื้อไวรัสโคโรน่า , การโจมตีทางไซเบอร์หรือผลกระทบที่อาจเกิดกับผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีและผู้สูงอายุ

ที่มา : cointelegrap

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น