<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รายงานเผย นักลงทุนรายย่อยกำลังแห่เข้าซื้อ Bitcoin สวนทางนักลงทุนสถาบันที่กำลังหนีจากตลาด

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ข้อมูล Coin Metrics ชี้กระเป๋าที่ถือเหรียญ Bitcoin จำนวนน้อยๆ นั้นเพิ่มขึ้นนับแต่ 12 มี.ค. แสดงให้เห็นว่านักลงทุนรายย่อยซื้อ Bitcoin แต่นักลงทุนสถาบันกำลังเทขาย ส่วนนักเทรดทั่วโลกกำลังมองหาความมั่นคงจากเงินดอลลาร์เห็นได้จากนักเทรดคริปโตซื้อ Tether และเหรียญ stablecoin มากขึ้น

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมาราคา Bitcoin ร่วงหล่นอย่างรุนแรงทำให้ตลาดคริปโตทั่วตลาดกลับกลายเป็นสีแดงซึ่งเหตุการณ์ร่วงลงในครั้งนั้นทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งหวาดหวั่นและต้องก้าวเท้าออกจากตลาดไปแต่นักลงทุนบางส่วนก็เห็นว่านี่คือช่วงเวลาการเข้าซื้อที่ดีมากซึ่งรายงานจาก Coin Metrics ก็แสดงให้เห็นว่ามีกระเป๋าที่ถือ Bitcoin เพิ่มขึ้นนับแต่วันนั้น

“จำนวนกระเป๋าเงินที่ถือ Bitcoin จำนวนระหว่าง 1/1B ไปจนกระทั่งถึง 1/100M ของซัพพลายเหรียญ BTC ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบทั้งหมดหรือประมาณ 0.000000001% และ 0.00000001% ของซัพพลายเหรียญทั้งหมดนั้น เพิ่มมากขึ้นประมาณ 6% ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา ส่วนจำนวนกระเป๋าที่ถือ Bitcoin ประมาณ 1/100M และ 1/10M ของซัพพลายเหรียญทั้งหมด เพิ่มขึ้นประมาณ 4%” 

ตอนที่ราคา Bitcoin ร่วงแตะ $3,800 มันก็มีวอลเล็ทใหม่ๆ ถูกสร้างและถือ BTC เพิ่มมากขึ้นส่งสัญญาณว่ามีผู้คนเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น แต่การที่มีวอลเล็ทใหม่ๆ นี้ก็อาจจะไม่ได้หมายถึงมีผู้ใช้งานใหม่อย่างเดียว อาจจะเป็นผู้ใช้งานเก่าๆ แต่มีหลายกระเป๋าก็ได้

บริษัท Bitwise ก็ได้เผยแพร่ปริมาณการซื้อขายคริปโตบนกระดานเทรดชื่อดังต่างๆ ในวันที่ BTC ร่วงซึ่งมีจำนวนเงินไหลเข้าตลาด Bitcoin กว่าห้าหมื่นล้านดอลลาร์

ด้านผู้ก่อตั้ง Coin Metrics นาย Nic Carter ก็ได้กล่าวว่าตลาดร่วงครั้งนั้นมันทำให้นักลงทุนสถาบันใหญ่ๆ ที่เข้ามาในตลาดหลังปี 2017 มองหาอะไรที่มั่นคงกว่าแต่นักลงทุนรายย่อยกลับวิ่งเข้าใส่ตลาด

“นักลงทุนรายย่อยเข้าซื้อ Bitcoin ตอนราคาร่วงแต่นักลงทุนสถาบันกลับออกไปจากตลาด” เขากล่าว

สภาพคล่องของตลาด Bitcoin โดยภาพรวมแล้วลดลงนับแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น เว็บเทรด Bitmex อาจมีส่วนทำให้ตลาดร่วงครั้งใหญ่เพราะปริมาณการซื้อขาย Bitcoin กับบริษัทนั้นมีจำนวนมากซึ่งรายงานของ Coin Metrics ก็ได้ออกมาอธิบายถึงการบังคับขายสัญญาขาดทุน (ล้างพอร์ต) บน Bitmex ด้วย โดยในช่วงนั้นมีการล้างพอร์ตมูลค่ากว่าหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์เลยทีเดียวทำให้เหรียญกว่า 75,000 BTC หายไปจาก Bitmex 

เห็นได้ว่านักเทรดเริ่มหมดความเชื่อมั่นกับ BitMEX และค่าสเปรตระหว่างการซื้อขายก็สูงมากๆ  นักลงทุนรายใหญ่เริ่มวิ่งเข้าหาตลาดเงินดอลลาร์อย่างเช่นเหรียญ stablecoin ซึ่งนาย Carter ก็กล่าวว่ามีเงินจำนวนกว่าสองหมื่นล้านดอลลาร์ไหลทะลักเข้าสู่ตลาด stablecoin โดยเฉพาะอย่างยิ่งของ Tether

ในตอนนี้ราคา Bitcoin นั้นอยู่ที่ระดับ 7,300 ดอลลาร์เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยประมาณ 1.99 เปอร์เซ็นต์ อ้างอิงจาก tradingview BTCUSDT

ที่มา : decrypt

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น