<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Etherscan เปิดตัวเครื่องมือใหม่ สามารถตรวจสอบกระเป๋า ETH ว่าเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมายไหมก่อนโอนมา

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อเร็ว ๆ เว็ปไซต์ Etherscan เพิ่งเปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่มีชื่อว่า ‘ETH Protect’ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับผู้ใช้ใหม่ที่ต้องการหลีกเลี่ยงที่อยู่กระเป๋าเงิน Ethr ที่เกี่ยวกับกับการแฮก อย่างไรก็ตามสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของ Ethereum ได้

ETH Protect จะทำเครื่องหมายไว้อยู่บนที่อยู่กระเป๋าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่น่าสงสัยและจะอนุญาตให้ผู้ใช้ระบุทำการยืนยันที่มาของเงิน หากเงินใด ๆ ที่พวกเขาได้รับนั้นเกี่ยวข้องกับแฮกและฉ้อโกง 

เครื่องมือนี้จะเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับเครือข่ายของ Ethereum 

การปกป้องผู้ใช้จากกระเป๋า Eth ที่ปนเปื้อน

กิจกรรมที่อันตรายในวงการคริปโตส่งผลให้ Etherscan มีความต้องการที่จะสร้างฟีเจอร์ใหม่นี้ขึ้นมาเพื่อติดตามที่อยู่กระเป๋าเงินของเหล่าแฮกเกอร์และนักต้มตุ๋นเพื่อให้แน่ใจได้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเทขายเงินเหล่านั้น

ฟิเจอร์ล่าสุดของ EtherScan จะช่วยให้ผู้ใช้ใหม่สามารถติดตามเงินที่ถูกโอนเข้ามาและเช็กประวัติการทำธุรกรรมของพวกเขาเพื่อให้แน่ใจได้ว่ามันเป็นเงินที่จะได้รับมาอย่างถูกต้อง

หากที่อยู่กระเป๋าถูกทำเครื่องหมายว่าปนเปื้อนและเจ้าของที่อยู่ดังกล่าวนั้นเชื่อว่ามีสถานะของเครื่องหมายนั้นมีความผิดพลาด พวกเขาจะสามารถติดต่อกับ EtherScan เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้

อย่างไรก็ตามบริษัทได้ชี้แจงว่า พวกเขาได้ทำการติดตั้งฟังกชั่น ‘circuit breaker’ เพื่อยกระดับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานให้มากขึ้น (privacy-enhancing mixers) ดังนั้นเมื่อใช้รวมกับเครื่องมือ ETH Protect กระเป๋าเงินของผู้ใช้ก็จะไม่ถูกตั้งค่าสถานะเป็นปนเปื้อนอย่างมั่ว ๆ แน่นอน

นักสืบ Blockchain เช่น Chainalysis นั้นมีฐานข้อมูลที่อยู่กระเป๋าเงินที่มีขนาดใหญ่และสามารถค้นหากระเป๋าเงินที่ถูกดำเนินการโดยผู้กระทำความผิดได้อย่างครอบคลุม  โดยพวกเขาได้สำเร็จไปอีกขั้นสำหรับติดตามที่อยู่กระเป๋าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็ปไซต์ในตลาดมืดของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย

ภัยคุกคามของ Eth

ในขณะที่ฟีเจอร์ใหม่นี้มีประโยชน์สำหรับการหลีกเลี่ยงที่อยู่กระเป๋าเงินของแฮกเกอร์ แต่ขณะเดียวกันมันก็ได้คุกคามการทำงานของ ETH ด้วยเช่นกัน

Fungibility เป็นคำศัพท์ทางเศรษฐศาสตร์ ซึ่งระบุว่าบัญชีหนึ่งหน่วยของสินค้าโภคภัณฑ์สามารถใช้ทดแทนกันได้กับหน่วยบัญชีอื่น ๆ ของสินค้าเดียวกันได้ ซึ่งมันบ่งชี้แล้วว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐจะเท่ากับ 1 ดอลลาร์อเมริกันเสมอไม่ว่าเงินนั้นจะถูกใช้ไปหรือไม่ 

ดังนั้นหากมี Address “ETH ที่บริสุทธิ์” หนึ่งชุดและ “ETH ที่ปนเปื้อน” อีกชุดหนึ่ง ความสามารถของสัญญา fungibility ก็จะถูกคุกคามอย่างรุนแรง ซึ่งก่อนหน้านี้ Bitcoin ต้องเผชิญกับปัญหาที่คล้ายกันเมื่อ Chainalysis เริ่มติดตามเงินที่ปนเปื้อนและลงบัญชีดำเว็ปเทรดคริปโตที่น่าสงสัย

แม้ว่าเครื่องมือใหม่นี้จะมีประโยชน์สำหรับการหลีกเลี่ยงปัญหาในเรื่องของการแฮกและการฉ้อโกง แต่อีกมุมหนึ่งมันก็ได้สร้างปัญหามากมายให้กับโครงสร้างเดิมของ Eth 

ไม่มีใครอยากลงเอ่ยในบัญชีดำของสาธารณะชน โดยมีกระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องกับการแฮกหรือโปรเจคแชร์ลูกโซ่ที่สำคัญ ๆ เช่น PlusToken

ซึ่งแตกต่างจากระบบธนาคารเงินที่ปนเปื้อนเหล่านี้ไม่สามารถปกปิดธุรกรรมได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นหากที่อยู่กระเป๋าเงินของ PlusToken ทำการโอนเงิน Ether จำนวนเล็กน้อยไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินที่แตกต่างกัน 100,000 ใบ ที่อยู่เหล่านั้นอาจถูกทำเครื่องหมายว่าปนเปื้อนทั้งหมด

กระบวนการแก้ไขข้อมูลที่อยู่กระเป๋าเงินของ EtherScan นั้นได้รับการจัดการโดยนักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยที่ไม่ใช่ระบบแบบอัตโนมัติ ดังนั้นมันจึงอาจใช้เวลานานหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน กว่าที่พวกเขาจะสามารถแก้ไขข้อมูลที่อยู่กระเป๋าเงินที่สงสัยว่ามาจากการกระทำผิด

อย่างไรก็ตามหนึ่งในบรรดาผู้สนับสนุนฟีเจอร์ใหม่นี้คือนาย Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้งของโปรเจค Ethereum ซึ่งเขาเชื่อว่ามันมีความจำเป็นที่จะต้องให้ผู้ใช้ใหม่รู้สึกปลอดภัยจากการหลอกลวง

ที่มา : cryptobriefing

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น