ดูเหมือนว่าธนาคารกลางสหรัฐจะไม่ใช่เครื่องพิมพ์เงินเพียงแห่งเดียวในโลกเสียแล้ว เมื่อในอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่ก็มี FED เป็นของตัวเองในรูปแบบของ stablecoin ซึ่งตอนนี้ยังคงมีการเสกเหรียญใหม่เข้ามาในตลาดอยู่เรื่อย ๆ
เมื่อสองวันที่ผ่านมาทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่า Whale Alert นั้นได้มีการแจ้งเตือนว่ามีการเสกเหรียญ USDT เพิ่มขึ้นอีก 120,000,000 USDT จาก Tether โดยภายหลังจากนั้นไม่นานราคาของ Bitcoin ก็เด้งขึ้นอย่างรุนแรง
ในขณะนี้มูลค่าตลาดของ Tether อยู่ที่เกือบ 6.4 พันล้านดอลลาร์ตามข้อมูลของ Coinmarketcap.com ขณะนี้มูลค่าตลาด USDT อยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ตามติด XRP และแซงหน้าตลาดเหรียญ Bitcoin Cash ไปแล้วโดยไม่มีท่าทีที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการชะลอตัวแม้แต่น้อย
ในปีนี้เพียงปีเดียวเท่านั้นตลาดของ USDT ทะยานขึ้นถึง 56% เนื่องจากพวกเขานั้นได้เสกมันเข้ามาในตลาดอย่างไม่หยุด โดยจำนวนเหรียญ USDT นั้นได้พุ่งแตะ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2020 ที่ผ่านมา
ความต้องการ Stablecoin ยังคงมาก
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 เป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับ Stablecoin ที่มั่นคงโดยมีมูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นถึง 8 พันล้านดอลลาร์ซึ่งมากกว่าปี 2019 ที่รวมกันทั้งหมดเสียอีก
Glassnode ได้รายงานการเพิ่มขึ้นของตลาดเหรียญ USDT โดยมีระดับสูงสุดเมื่อวานนี้ที่มากกว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเผยให้เห็นความต้องการของเหรียญดังกล่าวอย่างแท้จริง
การเพิ่มขึ้นของเหรียญ USDT ที่เข้ามาในตลาดส่งผลทำให้ผู้คนเริ่มหวาดกลัวว่าพวกเขานั้นมีเงินจริงมาแบคเหรียญดังกล่าวนี้ครบแบบ 100% หรือไม่
แต่หากมองในแง่บวก การสะสมเหรียญครั้งใหญ่ของเว็บเทรดชื่อดังทั้งหลายเช่น Binance อาจเป็นตัวตั้งต้นสำหรับการเพิ่มขึ้นของมูลค่าคริปโตเคอเรนซี่เช่น Bitcoin และ Ethereum ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมโดยรวมก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกันด้วย
ความเป็นไปได้อีกประการหนึ่งคือความต้องการ Tether ที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีน เนื่องจากว่าพวกเขายังมีข้อจำกัดในด้านการเข้าถึงคริปโตเคอเรนซี่อยู่
ผู้ค้าและนักลงทุนอาจมีความต้องการเงินดอลลาร์มากขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจของพวกเขาหดตัวในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกมา
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น