การ Halving ของ Bitcoin นั้นได้กลายมาเป็นสิ่งที่ทุก ๆ คนในวงการคริปโตต้องหันมาจับตามองกันเป็นอย่างมากในขณะนี้
เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นจะส่งผลทำให้ Bitcoin นั้นมีความหายากมากขึ้น เนื่องจากว่ามันจะทำให้เหรียญ Bitcoin ที่เกิดใหม่ต่อวันนั้นลดลงจาก 1,800 BTC หลือแค่ 900 BTC ซึ่งผู้คนเชื่อว่าการที่จำนวนอุปทานของมันลดลงนั้น มันจะทำให้ราคาของมันพุ่งสูงขึ้นในระยะยาว ซึ่งโมเดลของนักวิเคราะห์บางคนเผยว่าราคาอาจจะพุ่งไปแตะ 100,000 ดอลลาร์ในปีหน้านี้เลยทีเดียว
แต่ทว่านักวิเคราะห์รายหนึ่งผู้ใช้ชื่อว่า Alex ออกมาไม่เห็นด้วยกับนักวิเคราะห์สายกระทิงส่วนใหญ่ที่มองว่าราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง โดยเขาเถียงว่าราคาของ BTC อาจจะร่วงลงอย่างรุนแรงในภายหลัง เนื่องจากว่านักขุดคริปโตทั้งหลายจะพร้อมใจกันเทขายเหรียญที่พวกเขาถืออยู่
“ตลาด Bitcoin นั้นถือเป็นตลาดที่ถูกปั่นราคาได้ง่ายมาก ๆ เนื่องจากว่าผู้คนซื้อขายกันด้วยอารมณ์และโมเมนตัม มีผู้คนเป็นจำนวนน้อยที่จะสามารถเคลื่อนไหวราคาเพื่อชักจูงให้ตลาดคิดว่าจะเป็นขาขึ้นได้” กล่าวโดยนาย Alex “กุญแจความเสี่ยงสุดท้ายนั้นก็คือการแห่กันเทขายโดยกลุ่มนักขุดเมื่อการ halving มาถึง ซึ่งมันดูจริงมาก ๆ”
Bitcoin กำลังอยู่ภายใต้การเทขาย
นักขุดมีเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพิเศษที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบธุรกรรมและแก้ไขสมการในเครือข่าย Blockchain ของ Bitcoin ซึ่งพวกเขาจะได้รางวัลเป็น Bitcoin เป็นการตอบแทนหลังจากทำสิ่งนั้น
ภายหลังจากการ halving ครั้งที่ 3 ของ Bitcoin นี้ พวกเขาจะต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยต้นทุนด้านเวลาและค่าไฟที่เท่าเดิม แต่รางวัลที่พวกเขาจะได้ตอบแทนกลับมานั้นจะน้อยลงกว่าเดิมครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้นักขุดเหล่านั้นมีอยู่สองตัวเลือก ตัวเลือกแรกก็คือขุดต่อไปและยอมขาดทุน ตัวเลือกที่สองก็คือถอดปลั๊กเครื่องขุดและออกจากตลาดไป
ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น พวกเขาอาจต้องนำเอา Bitcoin ที่ถือไว้มาขายเพื่อประทังชีวิตก็เป็นได้
ทว่าวิธีการแก้ไขอีกทางหนึ่งก็คือการอัพเกรดเครื่องขุดของพวกเขาให้เป็นรุ่นใหม่ที่มีพลังในการประมวลผลมากขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงการต้องเพิ่มต้นทุนเพื่อจ่ายซื้อเครื่องขุดใหม่นั่นเอง โดยนาย Jeffery Barroga หรือนักวิเคราะห์จาก Paxful ออกมากล่าวว่า
“นักขุดมือสมัครเล่นนั้นอาจจะต้องพบว่าเหรียญ Bitcoin ที่เขาได้มาจากการขุดนั้นไม่เพียงพอที่จะนำไปจ่ายค่าต้นทุนเพื่อให้ริกขุดของพวกเขายังสามารถรันอยู่ได้”
รายงานล่าสุดจาก Bloomberg เผยว่านักขุดมือสมัครเล่นส่วนใหญ่นั้นเริ่มที่จะถอดปลั๊กเครื่องขุดของพวกเขาแล้ว ท่ามกลางการลดลงของแรงขุด Bitcoin ในเครือข่ายในช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ นั้นมาจากการร่วงลงของราคา Bitcoin ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
“ด้วยการที่ราคาร่วงลงในวันพฤหัสฯทมิฬที่ผ่านมา นักขุดที่ไม่มีแรงขุดพอจะถึงกับต้องอ้วกแตก ผมจะได้เห็นสิ่งนี้ชัดเจนขึ้นอีกครั้งเมื่อการ halving มาถึงแล้ว” กล่าวโดยนาย Alex
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น