<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

การประกาศคว่ำบาตรจีนของสหรัฐจะทำให้ตลาด Bitcoin กลับไปเป็นขาขึ้นหรือไม่ ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่าครั้งหนึ่ง Bitcoin จะเคยมีความสัมพันธ์ในทางตรงกันข้ามกับประเทศจีนอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อสกุลเงินของประเทศได้ปรับตัวลดลงและสกุลเงินดิจิทัลปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

การใช้งานเหรียญคริปโตอย่าง Bitcoin มันเริ่มเป็นที่นิยมขึ้นในช่วงกลางปี ​​2019 ท่ามกลางช่วงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน สื่อข่าว Bloomberg รายงานว่านักลงทุนกำลังใช้ Bitcoin เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดค่าเงินหยวนของธนาคารประชาชนจีน (People’s Bank of China) จนทำให้ความต้องการในสกุลเงินดิจิทัลนั้นเพิ่มสูงอย่างมาก

ในอีกหนึ่งปีข้างหน้าคาดการณ์ว่า Bitcoin จะมีการเติบโตมากขึ้นเนื่องจากสหรัฐฯและจีนเริ่มก่อ “สงครามเย็น” ในรูปแบบใหม่

การคว่ำบาตรประเทศจีนของสหรัฐ ฯ

ความเชื่อมั่นในช่วงขาขึ้นของ Bitcoin เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น นับตั้งแต่เมื่อนาย Robert O’Brien ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติจากทำเนียบขาวขู่ว่าจะลงโทษประเทศจีนเพื่อเป็นการตอบโต้ต่อกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จะบังคับใช้กับฮ่องกง

“การเสนอร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในครั้งนี้ ตีความเป็นนัย ๆ ได้ว่าจีนกำลังจะเข้ายึดครองฮ่องกงและหากทำเช่นนั้นจริง มันจะไม่สามารถรับรองได้เลยว่าฮ่องกงจะมีอิสรภาพ” กล่าวโดยนาย Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ 

“และหากเป็นเช่นนั้นเราก็จะกำหนดลงโทษ (คว่ำบาตร) ฮ่องกงและประเทศจีน” นาย O’Brien กล่าวในระหว่างให้สัมภาษณ์กับทางสื่อข่าว NBC

อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าประเทศที่ถูกคว่ำบาตรนั่นมักจะมีการใช้งาน Bitcoin เพิ่มสูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในตลอดช่วงห้าปีที่ผ่านมาของเวเนซุเอล่าและในประเทศอิหร่านประชาชนเริ่มใช้ Bitcoin เพื่อหลีกเลี่ยงการสั่งห้ามการโอนเงินระหว่างประเทศของธนาคารและเป็นมาตรการในการปกป้องเงินออมของพวกเขาที่กำลังมีมูลค่าลดลงเรื่อย ๆ 

ในขณะที่แบบสำรวจของปี 2019 ซึ่งถูกจัดทำโดยบริษัทการวิเคราะห์ Gate Trade พบว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของชาวอิหร่านได้รับเงิน $ 500 ถึง $ 3,000 ต่อเดือนจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ bitcoin 

BITCOIN เป็นสกุลเงินที่ใช้ต่อต้านสงคราม

หากสหรัฐอเมริกาดำเนินการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับจีน สิ่งนี้อาจส่งผลให้ PBOC ปรับลดค่าเงินหยวนอีกครั้ง นาย Naeem Aslam หัวหน้านักวิเคราะห์การตลาดของ Avatrade กล่าวกับทาง BI ว่าเขาสังเกตเห็นว่าค่าเงินหยวนที่กำลังอ่อนค่าลงเริ่มจะสร้างผลกระทบในทุก ๆ สกุลเงินที่เพิ่งเกิดใหม่

“อาจมีสงครามสกุลเงินเกิดขึ้นกับธนาคารกลางทั่วทุกแห่งที่ต้องการปรับลดค่าเงิน” นักวิเคราะห์กล่าว “ด้วยสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ครั้งใหม่นี้ เงินหยวนจะอ่อนตัวลงอย่างมากและอัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ประมาณ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ”

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางการเมืองที่น่ากังวลนี้ อาจช่วยเพิ่มนักลงทุนรายย่อยใน Bitcoin ให้มากขึ้นเรื่อย ๆ  และเห็นได้ชัดว่าตลาดคริปโตนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 120 เปอร์เซ็นต์จากจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม

ที่มา : bitcoinist