<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักขุด Ethereum ได้รับค่าธรรมเนียมธุรกรรมมากว่านักขุด Bitcoin ถึง 60%

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเหรียญ Ethereum นั้นยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางความต้องการในตัว smart contract รวมถึงการโอนเหรียญ ETH ที่สูงมากขึ้น

ระดับค่าธรรมเนียมดังกล่าวนั้นได้เพิ่มขึ้นถึงจุดที่ทำให้รายได้ของนักขุดที่มาจากค่าธรรมเนียมอย่างเดียวนั้นมากกว่าของ Bitcoin เป็นครั้งแรกในรอบเดือน โดยบริษัทด้านการวิเคราะห์ด้าน Blockchain ชื่อดัง Glassnode ได้ออกมาเผยถึงกราฟการวิเคราะห์ด้านล่างนี้

“ค่าธรรมเนียมรายวันของ Ethereum ได้แซงหน้าของ Bitcoin ไปแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งอยู่ที่ 498,000 ดอลลาร์ต่อ 308,000 ดอลลาร์โดยประมาณ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 141 วันหลังจากตอนที่มันเกิดขึ้นไปแล้วก่อนหน้านี้”

กราฟเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมของ Bitcoin (สีส้ม) และ Ethereum (สำน้ำเงิน)

สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ราคาค่าธรรมเนียมที่แพงมาก ๆ นั้นอย่างแรกก็คือความต้องการในการส่งเหรียญ ETH ระหว่างเว็บเทรดนั้นเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากว่าตลาดมีความผันผวนมากขึ้น อย่างที่สองก็คือเหรียญแชร์ลูกโซ่หลอกลวงที่รันอยู่บน blockchain ของ Ethereum นั้นดูเหมือนว่าจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และอย่างที่สามก็คือเหรียญ stablecoin นั้นเริ่มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักลงทุนคริปโต

นักวิเคราะห์กล่าวว่าเทรนด์การเพิ่มค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมดังกล่าวของ Ethereum นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป

เป็นเทรนด์ขาขึ้นสำหรับ Ethereum

นักวิเคราะห์กล่าวว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของการใช้งานเหรียญ ETH ในเครือข่ายนั้นถือเป็นการส่งสัญญาณด้านบวกต่อ Ethereum อย่างมาก

นาย Ryan Sean Adams หรือผู้ก่อตั้งบริษัท Mythos Capital ได้ออกมากล่าวว่าเขานั้นได้ค้นพบว่าราคาของ Ethereum นั้นมักจะมีความสัมพันธ์กันกับค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ผู้ใช้งานในเครือข่ายจ่ายไปในเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา

หากว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้ดูมีน้ำหนัก ราคาของ Ethereum นั้นก็มีโอกาสที่จะเพิ่มมากขึ้นกว่านี้อีกหลายเปอร์เซนต์ อ้างอิงจากกราฟของเขาด้านล่าง

ตัวอัพเกรดตัวใหม่กำลังมา

แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลทำให้ราคาของ Ethereum นั้นพุ่งขึ้น แต่ค่าธรรมเนียมที่แพงขึ้นนั้นก็ยังมีผลด้านลบอยู่ดี

โดยอ้างอิงจากงานวิจัยล่าสุดจาก Bitcoinist นั้น หากผู้ใช้งานต้องการที่จะใช้งานระบบ decentralized อย่าง MakerDAO และ Uniswap ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมอาจพุ่งสูงถึง 1 ดอลลาร์ หรือประมาณ 32 บาท และอาจจพุ่งสูงกว่านี้ในกรณีที่คุณต้องยอมจ่ายเพื่อให้มันไปถึงที่หมายด้วยความรวดเร็วมากขึ้น

นั่นหมายความว่าหากผู้ใช้งานต้องการที่จะเทรดหรือใช้งานเหรียญ ETH จำนวนเล็กน้อยเพื่อซื้อสัญญาบน DeFi แล้วล่ะก็ คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่แพงหูฉี่ ดังนั้นจึงได้มีการเรียกร้องให้มีการสร้างโซลูชันเพื่อให้มีการ scaling ของเครือข่ายสามารถรองรับจำนวนการทำธุรกรรมที่มากขึ้นได้

ก่อนหน้านี้เว็บเทรดคริปโตแบบ decentralized ชื่อดัง 1inch.exchange ได้ออกมาเสนอให้นักขุด Ethereum เพิ่ม block limit เพื่อที่มันจะได้จุข้อมูลการทำธุรกรรมได้มากขึ้นในทุก ๆ 14 วินาทีที่มี block ใหม่เกิดขึ้น

ในตอนนี้มีจำนวน gas limit อยู่ที่ 10 ล้าน แต่ก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเปอร์เซนต์ในอนาคตเพื่อรองรับจำนวนการทำธุรกรรมที่มากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักพัฒนาที่พยายามสร้างโซลูชันแบบ 2nd layer เพื่อที่จะลดการแออัดบน blockchain ลงเหมือนกับ Lightning Network ของ Bitcoin โดยโซลูชันดังกล่าวนั้นจะทำให้ผู้ทำธุรกรรมสามารถส่งเหรียญหากันได้แบบมีค่าธรรมเนียมที่ถูกมาก และเหรียญนั้นก็จะถูกส่งไปหาปลายทางได้เร็วมากขึ้นอีกด้วย