ข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นว่าจำนวนของ address ของ Ethereum นั้นได้แซงหน้าของ Bitcoin ไปแล้ว และแม้ว่าโวลุมการซื้อขายของ ETH นั้นจะยังคงต่ำกว่าของ Bitcoin แต่ว่าสถิติตนั้นก็ยังแสดงให้เห็นถึงการเข้ามาเทรดเหรียญดังกล่าวที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของ Ethereum เลยก็ว่าได้
จำนวนกระเป๋าเหรียญ Ethereum ที่ถูกสร้างขึ้นมาในเครือข่ายตอนนี้อยู่ที่ 39.96 ล้านกระเป๋าแล้ว ในขณะที่ของ Bitcoin นั้นอยู่ที่ 30.1 ล้านกระเป๋าเท่านั้น อ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทด้านการวิจัยอย่าง Into The Block ที่ออกมาโพสต์ภาพดังกล่าวบน Twitter
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้มีผู้แห่มาถือเหรียญ ETH เป็นจำนวนมากนั้นอาจเป็นเพราะว่าการเปิดตัวของ Ethereum 2.0 ที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่นานนี้ โดยนักลงทุนนั้นต่างก็กำลังแห่กันมาสะสมเหรียญดังกล่าวกันอย่างขมักเขม้น เพราะต่างก็คาดหวังว่าจะเห็นการพุ่งขึ้นของราคา และการเตรียมพร้อมเพื่อ proof of stake
แต่แม้ว่ามันจะเอาชนะ Bitcoin ได้ในแง่ของจำนวนของ address นั้น แต่ในด้านของอัตราราคานั้น มันยังห่างชั้นกันมาก โดยราคาของ Bitcoin ในตอนนี้ได้วิ่งขึ้นมาเกือบครึ่งหนึ่งของจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์แล้ว ในขณะที่ราคาของ ETH นั้นยังอยู่ต่ำกว่า 80% ของจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม ราคาของเหรียญอันดับสองของโลกดังกล่าวนั้นอาจจะมีการปรับตัวขึ้นมาหลังจากการอัพเกรด Ethereum 2.0 ก็เป็นได้ และเมื่อมันมาถึง นักลงทุนนั้นต่างก็คาดหวังว่าราคาของมันนั้นจะพุ่งแตะ 300 ดอลลาร์
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเราได้เห็นการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าธรรมเนียมบนเครือข่าย Ethereum จนทำให้มันวิ่งแซงหน้าของ bitcoin ไปแล้ว โดยทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปเมื่อวานนี้ว่านักขุดเหรียญ Ethereum นั้นมีรายได้จากค่าธรรมเนียมที่แซงหน้าของ Bitcoin ไปแล้ว
การอัพเกรดเป็น Ethereum 2.0 อาจช่วยทำป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้ในอนาคต เนื่องจากว่ามันจะช่วยในด้านของการ scaling ในเครือข่ายโดยรวมให้รองรับการทำธุรกรรมได้เป็นจำนวนมากกว่านี้
เมื่อช่วงเริ่มต้นสัปดาห์มา ดูเหมือนว่าราคาเหรียญ Ethereum นั้นยังคงล้มเหลวในการวิ่งไปที่จุดราคา 250 ดอลลาร์ซึ่งถือเป็นจุดราคาด้านจิตวิทยาที่จะสามารถนำพาให้มันไปถึง 300 ดอลลาร์ได้ แต่ดูเหมือนว่าในภายหลังนั้นมันก็ไม่สามารถที่จะวิ่งผ่านไปได้อยู่ดี
เมื่อตอนที่ราคานั้นได้ร่วงลงไปในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เราได้เห็นแนวรับที่แข็งแกร่งที่ระดับราคา 235 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีสำหรับนักเทรดสายกระทิง แต่เราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่ามันจะสามารถที่จะทำลายแนวต้านที่ 250 ดอลลาร์ได้หรือไม่