ก่อนหน้านี้ได้มีรายงานแล้วว่าเด็กชายอายุ 17 ปีรายหนึ่งจากเมืองฟลอริดานามว่า Graham Ivan Clark เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแฮก platform social ระดับโลกชื่อดังอย่าง twitter ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ทว่าล่าสุดได้มีรายงานใหม่เผยขึ้นมาว่าจำนวน bitcoin ที่เขามีอยู่ในครอบครองนั้นมากกว่า 3 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 90 ล้านบาทเลยทีเดียว อ้างอิงจากทนายของเขา David Weisbrod
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจำนวน bitcoin ดังกล่าวนั้นจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮกทวิตเตอร์ของเขาที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
การแฮกทวิตเตอร์ครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์
ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่านาย Graham ได้ถูกจับกุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจากที่ทางตำรวจคนพบว่าเขานั้นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแฮก twitter ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
โดยนาย Graham งั้นต้องถูกดำเนินคดีรวมกันกว่า 30 คดีหลังจากที่เขาทำการแฮกบัญชีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ของคนชื่อดังอย่าง Elon Musk, Bill Gates, Joe Biden, และรวมถึงบัญชีผู้ใช้งานของคนอื่นๆอีกมากมาย
โดยเขานั้นได้มีผู้สมรู้ร่วมคิดที่คอยช่วยเหลือเขาอีก 2 คน อีกทั้งยังเป็นผู้วางแผนหลอกลวงพนักงานของทวิตเตอร์เพื่อที่จะให้เขาสามารถเข้าถึงเครื่องมือหลังบ้านของทวิตเตอร์ได้
ก่อนหน้านี้มีผู้คนคาดการณ์ว่าการโพสต์หลอกให้เหยื่อโอนคริปโตเข้ามาหาเขาผ่านบัญชีผู้ใช้งานของคนดังนั้นถือเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้าเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าในตอนหลังจะไม่ใช่ซึ่งเป้าหมายในการแท็กทวิตเตอร์ดังกล่าวของเขาก็คือเพื่อทำเงินประมาณ 117,000 ดอลลาร์หรือประมาณ 3 ล้านบาทเท่านั้น
แต่ท้ายสุดแล้วดูเหมือนว่าการแฮกดังกล่าวของเขาจะไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่นักเนื่องจากว่าเขาต้องจ่ายเงินค่าประกันตัวเป็นเงินที่สูงถึง 725,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 22 ล้านบาทเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อที่จะให้ได้ไปขึ้นศาล
Bitcoin มูลค่า 3 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามเขาสามารถที่จะจ่ายเงินค่าประกันตัวให้กับตัวเองได้เนื่องจากว่าเขานั้นมีเงินที่สูงถึง 3 ล้านดอลลาร์หรือตกประมาณ 90 ล้านบาทเลยทีเดียว
แม้ว่าทางอัยการจะกล่าวว่าเกลียดคริปโตที่เขาได้มาทั้งหมดนั้นถือเป็นการได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ทว่าทนายของเขาชี้ว่านาย Graham ได้ส่งเรียนทั้งหมดของเขาคืนไปหมดแล้วและที่มีอยู่ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นส่วนที่ได้มาด้วยชอบทางกฎหมาย
นอกเหนือจากการจ่ายค่าประกันตัวที่สูงลิบลิ่วดังกล่าวแล้วเขายังต้องใส่กำไล cutting เพื่อติดตามว่าเขาจะไปที่ไหนตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย