<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้เชี่ยวชาญเผยหากนำเงินที่รัฐบาลแจกมาลงทุนใน Ethreum จะมีกำไรมากกว่า Bitcoin , ทองคำ และหุ้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เงินกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมหาศาลได้หลั่งไหลเข้าไปในสินทรัพย์อย่างเช่นหุ้น, ทองคำและคริปโตเคอเรนซี่ ส่งผลให้มูลค่าของพวกมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะที่ Bitcoin และทองคำมีกำลังมูลค่าพุ่งสูงขึ้นอยู่นั้น ดูเหมือนว่า Ethereum จะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากกว่า นับตั้งแต่ที่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

แต่การลงทุน 1,200 ดอลลาร์ ใน Ethereum จะช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนมากแค่ไหน ? และเงินทุนกองนี้จะช่วยให้ตลาดคริปโตเติบโตเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ? ในบทความนี้มีคำตอบ

Ethereum สามารถเอาชนะ Bitcoin , ทองคำและหุ้น ในแง่ของผลตอบแทนจากการลงทุนด้วยเงินที่รัฐบาลแจก

นับตั้งแต่ปี 2020 งบดุลของ Federal Reserve มีตัวเลขเพิ่มขึ้นกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เงินจำนวนดังกล่าวได้ถูกแจกจ่ายไปให้กับผู้เสียภาษีในสหรัฐ ฯ เป็นรายบุคคลจำนวน 1,200 ดอลลาร์สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป

เงินดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ , กระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19

อัตราการว่างงานในปีนี้เพิ่มสูงขึ้น เกือบจะเร็วพอ ๆ กับอุปทานของเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถูกนำไปใช้กับสิ่งต่าง ๆ นับตั้งแต่สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันเช่น การจ่ายบิลค่าสาธารณูปโภคและร้านขายของชำ โครงการปรับปรุงบ้านไปจนถึงการออมและการลงทุน

เงินจำนวนมหาศาลนี้ได้หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดและช่วยพยุงให้หุ้นลอยตัว ในขณะเดียวกันสินทรัพย์ ‘hard assets’ ที่มีอุปทานจำกัดอย่างคริปโตเคอเรนซี่ ก็ได้รับผลประโยชน์เป็นกรณีพิเศษจากภาวะเงินเฟ้อ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทองคำได้พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่และ Bitcoin เพิ่งทะลุระดับราคา 10,000 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับ แร่เงิน และเหรียญ altcoins ที่ทำหน้าที่ได้ดีในสภาพแวดล้อมเช่นนี้

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าจากสินทรัพย์ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น Ethereum จะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

การลงทุนเงิน 1,200 ดอลลาร์จะสร้างรายได้เท่าไหร่ นับตั้งแต่เดือนเมษายน ?

อ้างอิงข้อมูลจาก CoinMetrics ที่โพสต์โดยนาย  Alex Saunders นักลงทุนคริปโตและผู้ก่อตั้งบริษัทของ NuggetsNewsAU เขากล่าวว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ Fed คือ การเพิ่มมูลค่าให้กับสินทรัพย์คริปโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากเหนือจากการเปรียบเทียบผลตอบแทนระหว่าง Bitcoin และทองคำแล้ว ยังมีสินทรัพย์คริปโตที่โดดเด่นอีกตัวหนึ่งก็คือ Ethreum 

หากนักลงทุนนำเงินที่ได้รับจากการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แจกจ่ายครั้งแรกในช่วงต้นเดือนเมษายน มาลงทุนใน Ethreum ตอนนี้พวกเขาจะมีมูลค่าเงินลงทุนอยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์ ส่วนการลงทุนใน Bitcoin จะมีมูลค่าอยู่ที่ 2,000 เหรียญ และการลงทุนในดัชนีหุ้น S&P 500 หรือทองคำที่แม้ว่าราคาจะเพิ่งทำลายสถิติสูงสุดใหม่ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะให้ผลตอบแทนเพียงแค่ $ 250 เท่านั้น

แต่ถ้าหากเรานำมูลค่าการลงทุนใน Ethreum ไปเปรียบเทียบเหรียญ Altcoin ตัวอื่น ๆ ผลตอบแทนของมันก็ยังคงน้อยกว่ามาก ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราเทียบกับเหรียญ Chainlink ที่เพิ่งทำจุดสูงสุดใหม่ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ มันจะเป็นการเปลี่ยนมูลค่าการลงทุน 1,200 ดอลลาร์ให้กลายไปเป็น 3,600 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามจากตารางเปรียบเทียบด้านบนจะเห็นได้ว่าเหรียญ Altcoin ที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดกลับไม่ใช่ Chainlink แต่เป็นเหรียญ Cardano ซึ่งได้ให้ผลตอบแทน ROI สูงสุดอยู่ที่ 335% และนี่หมายความว่าหากคุณลงทุนเงิน $ 1,200 กับ Cardano ในวันที่ 11 เมษายน คุณจะได้รับมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมดอยู่ที่ $ 5,000 

ที่มา : newsbtc