เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า bitcoin นั้นถือเป็นเหรียญคลิปโตที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในตลาดในสายตาของผู้คนทั่วไป และมันจะยังคงครองบัลลังก์อันดับ 1 ไปเรื่อยๆตราบเท่าที่เหรียญคริปโตเคอเรนซี่นั้นยังคงไม่ล้มหายตายจากไปไหน โดยตั้งแต่ตอนที่มีการสร้าง bitcoin ออกมานั้นในตอนนี้เราได้เห็นเหรียญ Altcoin ที่มากกว่า 5,000 เหรียญที่ได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว โดยบางตัวก็ออกมากล่าวอ้างสรรพคุณว่าจะสามารถเอาชนะ bitcoin ได้และพร้อมที่จะโคนมันลงออกจากบัลลังก์
ปัจจุบันเหรียญ Altcoin เหล่านั้นดูเหมือนว่าจะยังไม่ยอมแพ้จากการเคลมดังกล่าวแต่ดูเหมือนว่าปัจจุบันยังไม่มีเรียนไหนสามารถเอาชนะ bitcoin ตามที่พวกเขาอ้างไว้ได้เลย ซึ่ง bitcoin นั้นถือเป็นราชาแห่งแท้จริงและจะยังคงอยู่เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนใหม่ๆที่ต้องการจะสร้างเหรียญคริปโตเป็นของตัวเอง
ในขณะเดียวกันเหรียญ Altcoin ก็จะยังคงเกิดขึ้นมาท่วมท้นตลาดเหรียญคริปโตเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่สามารถมีชีวิตอยู่รอดมาได้เกิน 2 ปี ในขณะเดียวกันนักวิเคราะห์บางคนก็ได้มีการออกมาคาดการณ์ถึงเหรียญ Altcoin ที่จะสามารถตีตื้นขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับ bitcoin แต่คำถามที่ตามมาก็คือว่ามันจะมีสักกี่เหรียญกันเชียวในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำได้
แม้ว่าสิ่งนี้จะฟังดูเป็นไปไม่ได้เลยแต่เราก็ไม่สามารถที่จะมองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่าตลาดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่นั้นมีความไม่แน่นอนอยู่และอะไรก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ โดยความผันผวนของตลาดคริปโตนั้นมีสูงมากในแบบที่ทุกๆคนรู้กัน และมันก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดคริปโตนั้นมีความคาดเดาได้ที่ยากมากๆ นอกจากนี้เรายังได้เห็นกลุ่มชุมชนของนักพัฒนาหน้าใหม่ที่เกิดขึ้นมามากมายและพวกเขาก็มีความตั้งมั่นที่จะสร้างเหรียญที่มีคุณภาพออกมาเพื่อที่จะเอาเข้ามาแข่งขันในตลาดอีกด้วย
มีเหรียญ Altcoin เป็นจำนวนมากที่กำลังมีอัตราผลกำไรค่อนข้างดีและเราอาจจะได้เห็นการพุ่งขึ้นของราคาในแบบที่หลายคนไม่ได้คาดมาก่อนในอีกไม่กี่ปีที่จะถึงนี้ และมันอาจจะสามารถก้าวข้ามผ่านราคาของ bitcoin ได้อีกด้วยในอีกไม่กี่ปีที่จะถึงนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้แม้ว่ามันจะไม่สูงก็ตาม แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่ในนั้นและเหรียญที่มีโอกาสในการเอาชนะ bitcoin ได้ก็คงจะไม่พ้น Ethereum
เหรียญอันดับ 2 ของโลกที่ตามหายใจรดต้นคอของ bitcoin และถือเป็นหนึ่งในเหรียญที่ถูกใช้ในตลาดคลิปโตมากที่สุด โดยอ้างอิงจาก white paper ของพวกเขา มันถูกพัฒนาโดยอ้างอิงตามความเป็นสากล, การเป็น module, ความคล่องตัวและความเรียบง่าย โดยบล็อกเชนของ Ethereum ถูกสร้างขึ้นด้วยระบบภาษาโปรแกรมมิ่งที่มีความสมบูรณ์และสามารถถูกใช้เพื่อสร้างสัญญาได้ ความสามารถดังกล่าวทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างโปรแกรมหรือฟังก์ชันหรืออะไรก็ได้เข้าไปในระบบผ่านโค้ดเพียงไม่กี่บรรทัด แม้มันจะมีอายุที่เกิดขึ้นมาได้ไม่นานแต่ปัจจุบันก็มีผู้นำมันไปใช้กันอย่างแพร่หลายเลยทีเดียว
นอกจากนี้โครงการ Decentralised Finance ( DeFi) หรือโครงการที่ถูกรันอยู่บน Ethereum ก็ยังได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นในปีนี้ โดยตัวแปรหลักๆของความสำเร็จของมันนั้นก็คือการที่ระบบ smart contract สามารถถูกเข้าถึงโดยผู้คนทั่วไปได้ นอกจากนี้ก็ยังมีโครงการบน DeFi ที่สร้างเหรียญ token ของพวกเขาขึ้นมาและมีอัตราผลตอบแทนที่เยี่ยมอีกด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญหลายรายได้ออกมาระบุว่ามันถือเป็น ICO แห่งปี 2020 เลยก็ว่าได้ โดยหนึ่งในตัวแปรที่ทำให้มันประสบความสำเร็จอย่างมากก็คือความสามารถในการที่ทำให้ผู้ใช้งานสร้างโครงการอะไรก็ได้เป็นของตัวเองอย่างง่ายๆ
นอกจากนี้ dApps บนเครือข่ายของ Ethereum ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เหรียญดังกล่าวได้รับความนิยม โดยล่าสุดนั้นมีรายงานว่าการทำธุรกรรมบน dApps ด้ายพุ่งทะลุ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ไปแล้วในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นมาถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์จากไตรมาสก่อนหน้านี้
ปัจจุบันเหรียญ Ethereum มีราคาอยู่ที่ 391.36 ดอลลาร์ และมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลทำให้มันกลายเป็นเหรียญอันดับ 2 ของโลกรองจาก bitcoin ที่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์
แม้ตัวเลขจะค่อนข้างห่างไกลเหรียญอันดับ 1 ของโลกแต่ก็อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าในตลาดคริปโตอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ซึ่งก็ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นเหรียญราชาเป็น Ethereum แทน bitcoin ก็ได้