<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวเตอร์จะมาทำลาย Bitcoin หรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญมีคำตอบ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักวิทยาศาสตร์ด้านควอนตัมรายหนึ่งกำลังศึกษาความเป็นไปได้ถึงผลกระทบต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมต่อระบบการเข้ารหัส (cryptography) และ cryptocurrency ในขณะนี้

โดยอ้างอิงจากวีดีโอบน Youtube ตัวหนึ่งได้มีนักวิทยาศาสตร์ควอนตัมรายหนึ่งนามว่า Anastasia Marchenkova ที่ได้ออกมาแบ่งปันความเห็นของเธอเกี่ยวกับการแข่งขันและการพัฒนาเพื่อทำลายเทคโนโลยีการเข้ารหัสด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัม

“อัลกอริทึมของ Shor (ควอนตัม) สามารถที่จะทำลาย RSA และ elliptic curve cryptography ที่ถือเป็นปัญหาอย่างมากเนื่องจากว่าข้อมูลของเราในทุกวันนี้ถูกเข้ารหัสด้วยอัลกอริทึ่มสองตัวดังกล่าวนั้น แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมนั้นก็ไม่ได้รวดเร็วไปสำหรับทุกอย่าง แต่มันเร็วขึ้นในการแก้ไขปัญหาบางส่วน และนั่นดูเหมือนว่าจะเป็น RSA และ elliptic curve encryption

แต่มันก็ยังมีอัลกอริทึ่มการเข้ารหัสในแบบอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม และพวกเราจำเป็นที่จะต้องค้นหามัน และก็นำมันไปใช้งานจริง ก่อนที่เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาดที่ใหญ่กว่านี้จะถูกสร้างขึ้นมา การทำลายการเข้ารหัสนั้นจำเป็นที่จะต้องมี qubit เป็นจำนวนมหาศาลอย่างมาก ศึ่งอยู่ที่ประมาณ 10 ล้าน qubit โดยประมาณ แต่มันถือเป็นหนึ่งในการค้นพบว่าสิ่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถทำได้นั้นมีอะไรบ้าง 

เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมนำเอาพลังจาก quantum properties มาเพื่อใช้สุ่มตัวเลขให้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม และนั่นถือเป็นส่วนประกอบหลักของเทคโนโลยีที่ที่อยู่เบื้องหลังการเข้ารหัสแบบ RSA ท้ายสุดนี้ก็คือข้อมูลส่วนตัวของเรานั้นจะไม่มีความปลอดภัยอีกต่อไปหากเรามีเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีขนาดใหญ่มากกว่านี้ ดังนั้นพวกเราจึงต้องทำอะไรกับมันสักอย่าง”

เมื่อไม่นานมานี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมดูเหมือนว่าจะกลายมาเป็นข่าวใหญ่หน้าหนึ่งทั่วโลก เนื่องจากหลายคนกลัวว่ามันจะมาเป็นภัยคุกคามต่อระบบการเข้ารหัส ที่ถือเป็นหัวใจหลักสำคัญของเหรียญ cryptocurrency และก็อินเตอร์เน็ทในตอนนี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมนั้นมีความสามารถในการเจาะรหัสและแก้ไขสมการตัวเลขที่มีความซับซ้อน เนื่องจากว่าตัว qubit หรือ quantum bit สามารถที่จะนำมาใช้เพื่ออยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า “superimposition” ด้วยการทำงานในสอง state ในเวลาเดียวกันได้

แต่ในขณะเดียวกันนาง Marchenkova นั้นไม่คิดว่าผู้ถือเหรียญ​คริปโตนั้นจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนย้าย Bitcoin ของพวกเขาไปยัง wallet ที่ปลอดภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมในทันที แต่เธอเชื่อว่าใครก็ตามที่ถือเหรียญคริปโตอยู่ควรที่จะเริ่มศึกษาและอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีดังกล่าวได้แล้ว เนื่องจากว่าสักวันหนึ่ง blockchain มีความจำเป็นที่จะต้องถูกอัพเกรดให้สามารถปกป้องตัวเองต่อการมาของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้

“ใช่ คุณควรที่จะกังวล แต่ไม่ใช่ตอนนี้ คุณยังไม่จำเป็นที่จะต้องเคลื่อนย้าย Bitcoin ของคุณในวันนี้ ไปยัง wallet ที่ทนทานต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัม แต่คำถามก็คือ เราจะอัพเกรด blockchain ได้อย่างไร

เราสามารถที่จะ fork มันได้ และเดินไปข้างหน้าต่อ ทุกอย่างจะเป็นไปโดยปกติ หากเราสามารถที่จะหาอัลกอริทึ่มที่ปลอดภัยต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัม แต่คำถามก็คือพวกเราจำทำอย่างไรต่อเหรียญเก่า หรือเหรียญที่สูญเสีย private key ไปแล้ว พวกเราจะกล่าวว่า ‘ขอโทษนะ บาย ตอนนี้ส่วนนี้ของ chain จะไม่สามารถใช้งานได้แล้ว จนกว่าคุณทำการเคลื่อนย้ายมัน หรือเข้ารหัสมันใหม่’ หรือเราจะค้นหาเทคโนโลยีใหม่ล่ะ?”