<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ชาวอเมริกันกว่า 70 ล้านคนทำลายสถิติเลือกตั้งล่วงหน้า จะส่งผลอย่างไรต่อราคา Bitcoin ในอีก 5 วันที่จะถึง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 59 ของมหาอำนาจโลกอย่างสหรัฐอเมริกา ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ เป็นที่จับตามองของผู้คนทั่วโลก โดยล่าสุดมีการทุบสถิติใหม่ด้วยจำนวนผู้คนที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเกิน 70 ล้านคนทั่วประเทศแล้ว ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์การเลือกตั้งของสหรัฐฯเลยทีเดียว

ท่ามกลางความหวังนับล้านของประชาชนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของผู้ท้าชิงทั้งสองท่านอย่าง Joe Biden และ Donald Trump จากวิกฤตโรคระบาด Covid-19 ทำให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้อาจจะส่งผลต่อราคาและความเชื่อมั่นในตลาดแห่งโลกอนาคตอย่าง Bitcoin ได้เฉกเช่นในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 58 เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา

ย้อนดูแนวโน้มราคา Bitcoin ก่อนการเลือกตั้งครั้งที่แล้วในปี 2016

ในช่วงระยะเวลาสามเดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมานั้น มูลค่าของ Bitcoin อยู่ในกรอบราคาที่ 580-640 ดอลลาร์ ต่อ 1 BTC และได้ทำการไต่ระดับขึ้นไปอย่างต่อเนื่องหลังจากเลือกตั้ง จนกระทั่งไม่สามารถกลับมาแตะที่กรอบราคาเดิมได้อีกเลยนับจากผ่านการเลือกตั้งครั้งนั้นมา

ดังรูปกราฟราคาด้านล่าง 

ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่าการเลือกตั้งในปี 2020 นี้ อาจจะเกิดคลื่นลูกเดียวกันของการขยับราคา Bitcoin กับช่วงก่อนการเลือกตั้งในปี 2016 อีกครั้งหนึ่ง หากมองช่วงระยะเวลาสามเดือนก่อนการเลือกตั้งในปีนี้เช่นเดียวกันกับในปี 2016 นั้น จะเห็นได้ว่าเริ่มมีการขยับตัวสูงขึ้นของราคา Bitcoin แล้วจาก 11,000 ดอลลาร์ ไปถึง 13,000 ดอลลาร์โดยประมาณในขณะนี้ และอาจจะพุ่งทะลุ 14,000 ดอลลาร์หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น

ราคา Bitcoin หลังการเลือกตั้งพร้อมปัจจัยหนุนของการ Halving ครั้งที่ 3

นักวิเคราะห์ชื่อดังนาย Max Keiser จาก Wall Street ได้ให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph เว็บไซต์ชื่อดังเกี่ยวกับราคาของ Bitcoin ในช่วงหลังการเลือกตั้งไว้ว่า “ราคาของ Bitcoin จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหากนาย Joe Biden ผู้ท้าชิงได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่กลับกันมันจะเพิ่มขึ้นอย่างช้ามาก ๆ หากนาย Donald Trump ได้รับชัยชนะ” 

“การที่นาย Joe Biden ได้รับชัยชนะ นั่นหมายความว่าวงการคอรัปชั่นจะชนะไปด้วยเช่นเดียวกันกับใน “รัฐพันลึก” (Deep State) ผมมองว่าราคาของ Bitcoin จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงจากความกังวลของผู้คนที่แห่มาซื้อหลังการได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของนาย Joe Biden” เขากล่าว

ทั้งนี้นาย Max Keiser กล่าวเสริมว่า “หากนาย Donald Trump ได้รับเลือกแล้วล่ะก็ จะมีโอกาสมากกว่าที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปใช้ Bitcoin ดังนั้นราคาของ Bitcoin จะค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป”

แต่ที่แน่นอนก็คือเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ มีโอกาสส่งผลกระทบสูงมากต่อราคา Bitcoin อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าใครจะได้รับชัยชนะในศึกครั้งนี้

อีกทั้งยังมีปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่สามารถพาราคา Bitcoin ให้พุ่งทะลุสู่จุดสูงสุดใหม่ได้นั่นก็คือช่วงระยะเวลาหลังการเกิด Halving ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งคล้ายคลึงกับการเกิด Halving ครั้งที่ 2 มาแล้ว

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยมากมายทั้งทางด้านพื้นฐานและด้านเทคนิคที่ส่งผลต่อการพุ่งขึ้นของราคาและความผันผวนของราคา Bitcoin ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่นักลงทุนไม่ควรที่จะมองข้าม

ไม่ว่า Joe Biden หรือ Donald Trump ใครจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันจะเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อทุกภาคส่วนรวมถึงตลาด Bitcoin อย่างแท้จริง

ดังนั้นนักลงทุนควรจะจับตามองการเลือกตั้งในอีก 5 วันอย่างใจจดใจจ่อ