เว็บกระดานเทรดชั้นนำระดับโลก Binance ได้ออกมาเผยถึงรายงานเกี่ยวกับการเทรดล่าสุด โดยได้มีการวิเคราะห์สภาพของตลาด Bitcoin, Ethereum และตลาด altcoin อื่น ๆ อีกด้วย
รายงานดังกล่าวนั้นได้มีการเน้นย้ำถึงสภาพตลาดของ Bitcoin ที่กำลังแย่งส่วนแบ่งตลาดอย่างช้า ๆ มาจากตลาด altcoin มาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยส่งผลทำให้ฟองสบู่ decentralized finance (DeFi) นั้นแตกออกในที่สุด รวมถึงทำให้ราคาในตลาดเหรียญดังกล่าวลดลงอีกด้วย
“ราคาเหรียญคริปโตอันดับต้น ๆ อย่าง ETH, XRP, BCH, LTC, และ LINK ดูเหมือนว่าจะมีผลตอบแทนที่ดีที่สุดในเดือนตุลาคม แต่ก็ยังล้มเหลวในการทำจุดสูงสุดใหม่ เมื่อกิจกรรมการเทรดส่วนใหญ่นั้นกำลังเคลื่อนย้ายไปที่ Bitcoin เป็นเวลาหลายเดือนมาแล้วที่ตลาดเหรียญ altcoin กลายเป็นตลาดหลัก ๆ ที่ทำให้นักลงทุนนั้นมีกำไร
นอกจากนี้มันยังไม่เป็นที่น่าตกใจอีกด้วยว่าตลาด altcoin เริ่มที่จะสูญเสียโมเมนตัมและเริ่มไม่วิ่งตามการพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin หากนับตั้งแต่การปรับฐานของราคาในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เหรียญโทเคนในตลาด DeFi นั้นกำลังกลับตัวแบบสมบูรณ์แบบ โดยผลตอบแทนที่เคยมีมาราว ๆ 70-90% นั้นได้หายไปหมดแล้ว”
ปัจจุบันนักวิเคราะห์จาก Binance กำลังคาดหวังให้ตลาด Bitcoin เข้าสู่ช่วงเย็นตัวลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้พุ่งไป 16,000 ดอลลาร์
พวกเขาชี้ไปที่การไซด์เวย์ของราคา Bitcoin ในระดับ 10,000-12,000 ดอลลาร์ว่าเป็นตัวอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อกราฟราคา Bitcoin ในอนาคต
สำหรับในแง่ของอนาคตของตลาด altcoin นั้น พวกเขาชี้ว่าการมาของ Ethereum 2.0 จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาตลาด ETH และตลาด altcoin อื่น ๆ
“เป็นที่คาดหวังว่าการอัพเกรดดังกล่าวจะส่งผลกระทบด้านบวกต่อราคาของ ETH และจะช่วยพัฒนาเครือข่ายในด้านการใช้งานร่วมกัน, การ scaling และด้านความปลอดภัย
นอกจากนี้การอัพเกรดดังกล่าวจะเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบ consensus ของ ethereum ให้กลายเป็น proof-of-stake ที่จะสร้างแรงจูงใจต่อนักลงทุนด้วยการล็อคเหรียญของพวกเขาไว้บนเครือข่ายเพื่อการ stake รางวัล และนั่นจะลด supply ของเหรียญโทเคน ETH ลง ในขณะที่ความต้องการในตัวเหรียญนั้นจะเพิ่มขึ้น เมื่อนักลงทุนเป็นจำนวนมากพากันหลั่งไหลเข้ามาเพื่อมองหาการทำกำไรที่มั่นคง
หากเราลองพิจารณาถึงตัวเร่งปฏิกิริยาดังกล่าวนี้ การอัพเกรดดังกล่าวอาจจะนำพาให้ราคาเหรียญ ETH ออกมาจากการหลับไหล และอาจจะช่วยทำให้ตลาด altcoin นั้นมีอารมณ์ที่เป็นด้านบวกมากขึ้น”
หากคุณสนใจรายงานฉบับเต็ม สามารถหาอ่านได้ที่นี่