ในสัปดาห์นี้ราคา Bitcoin ได้พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดของปีที่ระดับ 16,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางการเตรียมพร้อมสำหรับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE), การประกาศวันเปิดตัว Ethereum 2.0 และ Bitcoin Cash ที่กำลังเตรียมการ Hard Fork ในวันที่ 15 พฤศจิกายน
ราคาเหรียญคริปโตส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยราคา Bitcoin ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 14% และมีการซื้อขายกันอยู่ที่ใกล้กับระดับ 15,500 ดอลลาร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ราคา Ethereum เพิ่มขึ้นกว่า ~ 14% และราคา Ripple เพิ่มขึ้นกว่า ~ 5% ทำให้มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ ~ 11%
ราคา Bitcoin ได้พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดของปี 2020 ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐอเมริกา การพุ่งขึ้นของราคาในครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับช่วงเวลาที่นาย Joe Biden ได้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไป ในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินเดียวกันและในที่สุดชัยชนะของ Biden ก็ถูกประกาศอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ทำให้ราคาของ Bitcoin เริ่มปรับตัวพุ่งขึ้นอีกครั้ง
แม้ว่า Biden จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ถึงอย่างนั้นพรรครีพับลิก็จะยังคงควบคุมวุฒิสภาในวอชิงตันต่อไป เนื่องจากในขณะนี้ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งในระยะสั้นของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดูเหมือนว่าธนาคารกลางสหรัฐจะอยู่ในโหมดบังคับให้ต้องใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสิ่งนี้จะนำไปสู่เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
การคาดการณ์ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงกำลังผลักดันให้นักลงทุนรายใหญ่หันมาลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนี่จะช่วยผลักดันความต้องการใหม่ให้กับ Bitcoin เนื่องจากอุปทานแบบคงที่และนโยบายการเงินที่มีอยู่ รวมกับปัจจัยในแง่บวกอื่น ๆ เช่นการ Halving, การเทขายเหรียญของนักขุดที่ลดน้อยลงและ การที่บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Microstrategy, Paypal, DBS และ Square ได้ตัดสินใจแล้วว่า Bitcoin เป็นสิ่งที่จำเป็นในบริษัทของพวกเขา ดังนั้นแนวโน้มขาขึ้น BTC ก็จะยังคงดำเนินต่อไป
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Ethereum 2.0 phase 0 ได้มีการประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าจะเปิดตัวในวันที่ 1 ธันวาคม โดยขณะนี้สัญญาการฝากเงินได้เปิดให้ใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้วและนักลงทุนจะสามารถเริ่มรวบรวมเงินที่จำเป็นในการ Staking ก่อนเปิดตัวจริงในวันที่ 1 ธ.ค. มูลนิธิ Ethereum foundation เขียนอธิบายไว้ในบล็อกโพสต์ว่า ขณะนี้ผู้ใช้คาดหวังจะสามารถฝากเงิน 32ETH ซึ่งจำเป็นในการ Staking สำหรับสัญญาการฝากเงินผ่าน Launchpad โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัญญาดังกล่าวนั้นจะต้องรวบรวมเงินมัดจำขั้นต่ำเป็นจำนวนทั้งหมด 1,634 รายการ รายการละ 32 ETH รวมเป็น 524,288 ETH หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 239 ล้านเหรียญดอลลาร์เพื่อดำเนินการเปิดตัวอย่างสมบูรณ์
นี่เป็นครั้งแรกที่ Ethereum มีการกำหนดวันที่ชัดเจนสำหรับการเปิดตัว Ethereum 2.0 หลังจากที่เลื่อนการเปิดตัวมาเป็นเวลานานหลายเดือน ความคาดหวังในการเปิดตัว ETH 2.0 ที่หลายคนเฝ้ารอคอยกันมาหลายปี ในที่สุดตอนนี้ก็กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว และขณะเดียวกันเหรียญคริปโตที่สร้างขึ้นบนเครือข่าย Ethereum blockchain อาทิเช่น Aave (AAVE), Synthetic Network Token (SNX) และ Yearn.finance (YFI) ก็ดูเหมือนว่ากลายเป็นเหรียญคริปโตที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า ~ 73%, ~ 51% และ ~ 40% ตามลำดับ
ข่าว Crypto สำหรับสัปดาห์หน้า
6 พฤศจิกายน – NEM ยืนยันการเปิดตัวกระบวนการอัปเกรดไปเป็น Symbol
ในวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมาทาง NEM Group ได้ประกาศวันเปิดตัวกระบวนการอัปเกรดไปสู่ ‘Symbol’ ซึ่งเป็นโซลูชันบล็อกเชนระดับองค์กรรุ่นต่อไป โดยจะเป็นการแทนที่บล็อกเชน NEM NIS1 ตัวเดิมและเปิดโทเค็น XYM ตัวใหม่ เครือข่ายสาธารณะ Symbol ตัวใหม่จะถูกนำมาใช้ควบคู่ไปกับ NIS โดยเครือข่ายทั้งสองจะทำงานควบคู่ไปพร้อมกัน การผสมผสานระหว่างสองระบบนี้จะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 15 ถึง 17 ธันวาคม ก่อนการเปิดตัว Symbol snapshot ในวันที่ 17 ธันวาคม 1 XEM ที่ผ่านกระบวนการ snapshot แล้วจะมีมูลึ่าเท่ากับ 1 XEM + 1 XYM ซึ่งหลังจากประกาศเปิดตัว Symbol ดูเหมือนว่าราคาของ XEM จะพุ่งขึ้นกว่า ~ 25% เลยทีเดียว
15 พฤศจิกายน – Bitcoin Cash เข้าสู่กระบวน Hardfork
Bitcoin Cash จะทำการ Hard Fork ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการอัปเกรดโปรโตคอลที่เป็นไปตามกำหนดการ การ Hardfork ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการถกเถียงกันอย่างรุนแรงภายในชุมชนผู้ใช้งานระหว่าง “Bitcoin cash node” และ “Bitcoin cash ABC” ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ Hardfork เครือข่ายจะถูกแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝั่ง
อย่างไรก็ตาม Bitcoin cash node ดูเหมือนว่าจะได้รับการสนับสนุนจากนักขุดมากกว่าในช่วงเวลานี้ ดังนั้นหมายความว่าเว็บเทรดอาจจะไม่ให้การรองรับเหรียญ ABC หากมันได้รับความนิยมและอัตรา Hashrate ที่น้อยกว่า ยกตัวอย่างเช่น Kraken กล่าวว่าพวกเขาจะให้การสนับสนุน Bitcoin Cash ABC ก็ต่อเมื่อมันได้รับอัตรา Hashrate อย่างน้อย 10% ของเครือข่าย Bitcoin cash node
สรุปเหรียญคริปโต 10 อันดับแรก
ผลตอบแทนเหรียญคริปโต 10 อันดับแรกในสัปดาห์นี้ นำมาโดย Bitcoin, Ethereum และ Ripple (XRP) ที่เพิ่มขึ้นกว่า 5% ซึ่งดูเหมือนว่าผลตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้นของ XRP นั้นจะเกิดขึ้น หลังจากที่ทาง Ripple ได้ประกาศเปิดตัวสำนักงานใหม่ที่ Dubai International Financial Centre (DIFC) เพื่อให้บริการฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA)
กราฟราคา Bitcoin
ข้อมูลจาก Glassnode แสดงให้เห็นว่า 97% ของ Bitcoin Address ทั้งหมดอยู่ในโหมดกำไรและราคา Bitcoin นั้นยังคงอยู่เหนือค่าเฉลี่ย MA ราย 100 วัน ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบหลายปี