CEO ของบริษัทจัดการธุรกรรมการเงินยักษ์ใหญ่ MoneyGram นาย Alex Holmes ได้กล่าวว่าการร่วมงานกับทาง Ripple จะกลายเป็นการสร้างขีดจำกัดใหม่ให้กับการโอนและรับส่งเงิน และได้ร่วมงานกันมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2019 หลังจากที่ทาง Ripple ได้ใช้เงินกว่า 50 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเป็นหุ้นส่วนกับทาง Moneygram
การร่วมงานกันนั้นมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเพื่อลดต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศโดยใช้ผลิตภัณฑ์ RippleNet เข้ามาช่วย นอกจากนี้ทาง Moneygram ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ xRapid เพื่อบริหารเงินคงคลังและการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศอีกด้วย
นาย Holmes ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าการร่วมงานกับ Ripple จะเป็นการผลักดันนวัตกรรมทางการเงินต่าง ๆ และเพื่อค้นหาแนวทางในการนำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้อย่างกว้างขวางอีกด้วย ปัจจุบันความเร็วในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละบริษัท ซึ่งลูกค้ามีความต้องการที่จะให้การทำธุรกรรมสำเร็จในทันที และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่เขาเลือกที่จะร่วมงานกับ Ripple
นาย Holmes ยังได้ให้ความเห็นอีกว่า Ripple นั้นเป็นบริษัทชั้นนำที่ได้ทำนวัตกรรมหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี blockchain และตลาดคริปโต ซึ่งจากการเรียนรู้และเฟ้นหานวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วยกันจะทำให้สามารถสร้างขีดจำกัดใหม่ ๆ ให้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินได้
ถึงแม้นาย Holmes จะได้กล่าวถึงข้อดีออกมามากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีรายงานออกมาว่า Ripple กำลังวางแผนที่จะขายหุ้นของ Moneygram เป็นจำนวน 30% ของที่ Ripple ถืออยู่ ซึ่งจะได้กำไรสูงถึงประมาณ 30% หลังจากที่มูลค่าบริษัทของ Moneygram ได้เติบโตขึ้นมามากกว่า 130% ในปีที่ผ่านมา
โดยปัจจุบัน Ripple ได้ถือหุ้นของ Moneygram เป็น 8.6% จากปริมาณหุ้นทั้งหมดของ Moneygram
ที่มา: cryptopotato