ผู้เชี่ยวชาญด้าน Bitcoin และ Blockchain นาย Andreas M. Antonopoulos ได้ออกมาเผยถึง 3 วิธีที่แย่ที่สุดในการเก็บ bitcoin ของคุณ
นาย Antonopoulos กล่าวว่าปัจจุบันนักลงทุน Bitcoin มีวิธีการง่าย ๆ หลายวิธีในการหลีกเลี่ยงการสูญเสีย BTC ของพวกเขา แต่หลาย ๆ คนก็ยังไม่สามารถที่จะทำมันได้
“ผมอยากจะบอกว่าวิธีการที่แย่ที่สุดในการเก็บ Bitcoin นั้นก็คือการเก็บมันไว้บนแพลทฟอร์มของผู้ให้บริการด้านการเก็บ Bitcoin เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขาจะมี private key ของคุณ และคุณจะไม่ได้ถือ key เอง อีกทั้งมันยังสามารถเข้าถึงได้ผ่านหน้าเว็บ, และไม่มีการป้องกันด้วย two-factor อีกด้วย ดังนั้นผมอยากจะบอกว่าวิธีการนี้ถือเป็นวิธีในการเก็บ Bitcoin ที่แย่ที่สุดเลยก็ว่าได้
หากคุณเก็บ Bitcoin ไว้ในกระเป๋าของผู้ให้บริการด้านการเก็บเหรียญออนไลน์ คุณจะไม่ได้ถือ key เอง และระบบดังกล่าวจะมีการให้เข้าถึงผ่านหน้าเว็บได้แบบง่าย ๆ นั่นหมายความว่าคุณจะต้องทำการพิมพ์ username และ password เข้าไปในเว็บบราวเซอร์ และเว็บดังกล่าวอาจจะเป็นเว็บจริงหรือปลอมก็ได้ หรืออาจจะอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหรือไม่มี key logger หรือไวรัสโทรจันติดตั้งไว้ก็เป็นได้
และมันไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้ระบบการยืนยันแบบ 2-factor หรือเป็นระบบ 2-factor ที่โคตรจะง่ายอย่างเช่นระบบ 2-factor แบบส่งผ่าน SMS ซึ่ง ณ จุด ๆ นี้เรื่องดังกล่าวถือเป็นความประมาทที่ไม่น่าให้อภัยในประวัติศาสตร์ของอินเทอร์เน็ตเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะการใช้ SMS เพื่อยืนยันแบบ 2-factor นั่นเลยเป็นสาเหตุที่ธนาคารชอบใช้มันอย่างมาก”
ส่วนความผิดร้ายแรงข้อที่สองนั้น นาย Antonopoulos กล่าวว่ามันคือการเก็บ Bitcoin ไว้ในกระเป๋าแบบ non-custodial ที่แม้ว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่ได้เป็นคนถือ key ของเรา แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะถูกเจาะผ่านช่องโหว่ได้อยู่ดี
“การเก็บ Bitcoin ที่แย่เป็นอันดับสองก็คือการเก็บไว้บน non-custodial ที่ไม่มี 2-factor, เป็นกระเป๋าแบบใช้งานผ่านหน้าเว็บ ซึ่งไม่ปลอดภัยต่อการโจมตีแบบ phishing จนส่งผลทำให้ผู้คนถูกขโมยเงินออกจากกระเป๋านั้น และมันมักจะเกิดขึ้นแบบบ่อย ๆ เสียด้วย ดังนั้น นั่นจึงเป็นแนวคิดที่แย่มาก คุณจำเป็นที่จะต้องเพิ่ม 2-factor เข้าไป หรือไม่ก็ย้ายเหรียญของคุณไปที่อื่น”
ส่วนวิธีที่แย่ที่สุดในข้อสุดท้ายนั้น นาย Antonopoulos กล่าวว่านั่นคือการเก็บไว้ในแอพบน Desktop
“วิธีการเก็บเหรียญที่แย่ที่สุดวิธีที่ 3 ก็คือการเก็บมันไว้ในกระเป๋าเก็บ Bitcoin บนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ไม่มีความปลอดภัย ซึ่งมันอยู่ในรูปแบบของแอพในเครื่องคอมที่มีลักษณะเป็นเหมือนกับ hot wallet และมีตัวเลือกด้านความปลอดภัยแค่รหัสผ่าน แต่ถึงแม้คุณจะมีรหัสผ่าน หากมันอยู่บนระบบ OS บน desktop นั้น อย่างเช่น Windows 7 ที่ไม่ได้รับการอัพเดตมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และแม้ว่าคุณมีรหัสผ่านก็ตาม ผมสามารถที่จะเจาะเข้าไปได้ด้วยไวรัส Trojan หรือตัว keylogger ที่ถูกติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ๆ
ดังนั้นแล้วเมื่อคุณมีระบบปฏิบัติการแบบนั้น คำถามที่ตามมาคงไม่ใช่ ‘ผมมีไวรัสไหม?’ หรือ ‘ผมมีไวรัสอยู่ประมาณกี่ประเภทกัน’ แต่มันจะเป็น ‘ข้อมูลส่วนตัวของผมถูกรั่วไหลออกไปมากเท่าไรแล้ว’ มากกว่า ดังนั้นนี่จึงเป็นตัวเลือกที่แย่ที่สุดอันดับ 3 ของผม”
อย่างไรก็ตาม นาย Antonopoulos ได้ออกมาเผยถึงวิธีการเก็บ Bitcoin ที่ปลอดภัยเอาไว้ตอนท้ายด้วย โดยเขากล่าวว่า
“ยกตัวอย่างเช่น บนแอพโทรศัพท์มือถือ, hot wallet บนโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบตัวช่วยจำ (mnemonic) ซึ่งมันค่อนข้างจะดี เพราะว่าระบบ OS ของโทรศัพท์มือถือนั้นดี
และเรายังสามารถนำมันไปเก็บไว้ใน hardware wallet หรือ cold storage ที่ใช้ multi-sig ในรูปแบบอื่น ๆ ได้อีกด้วย”