<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้เชี่ยวชาญเผยถึงระดับแนวต้านที่ XRP ต้องทะลุไปให้ได้ ถึงจะกลายเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ราคา XRP นั้นยังคงไซด์เวย์อยู่อย่างนิ่ง ๆ ที่ระดับราคา 0.32 ดอลลาร์ ในขณะที่ราคาของเหรียญ Crytocurrency อื่น ๆ นั้นกำลังพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ Bitcoin ที่ผ่าน 40,000 ดอลลาร์ไปแล้ว

ปัจจุบันราคา BTC นั้นได้พุ่งขึ้นกว่า 100% จากจุดสูงสุดเก่าที่เคยทำไว้ในปี 2017 ในขณะที่ราคาของ XRP นั้นก็ร่วงลงมากกว่า 90% จากจุดสูงสุดในปี 2017 เช่นกัน หลัก ๆ นั้นการฟ้องร้องของ SEC ต่อบริษัท Ripple กำลังทำให้สภาพตลาด XRP ในตอนนี้ดูน่าเป็นห่วงอย่างมาก นอกจากนี้เรายังได้เห็นการออกมาประกาศยกเลิกให้เทรด XRP ในหลาย ๆ เว็บเทรดอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กราฟดังกล่าวนั้นดูเหมือนว่าจะดูมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นอย่างมากในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ หากราคาของ XRP นั้นสามารถที่จะพุ่งทะลุจุดแนวต้านดังกล่าวไปได้ อ้างอิงจากนักวิเคราะห์จาก Cointelegraph

แนวต้านราคาที่ 0.32-0.345 ดอลลาร์

XRPUSD จาก TradingView

กราฟจาก XRP นั้นเผยให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่มีความพิลึกอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้ราคา XRP นั้นได้ทำให้ระดับที่ 0.21 ดอลลาร์ได้กลายไปเป็นแนวรับอย่างสวยงามในปี 2020 โดยแนวรับ/แนวต้านดังกล่าวนั้นส่งผลทำให้มีการ breakout อยู่เหนือโซนแนวต้านที่สำคัญที่ 0.32-0.35 ดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ระดับแนวต้านดังกล่าวถูกทำลายลง และส่งผลทำให้ราคาได้พุ่งขึ้นไปที่ระดับ 0.80 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นของราคา XRP ที่สำคัญที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ภายหลัง XRP นั้นก็ต้องเจอกับข่าวด้านลบ หรือการฟ้องร้อง Ripple จนส่งผลทำให้ราคา XRP นั้นได้ร่วงลงมาอย่างรุนแรง

ตอนนี้โครงสร้างของกราฟราคานั้นได้ถูกทำลายไปแล้ว และส่งผลทำให้กราฟนั้นดูค่อนข้างที่จะแปลกพิลึกอย่างมาก แต่ถึงกระนั้น เราก็สามารถที่จะดูระดับแนวรับแนวต้านได้จากตรงจุดนี้

อย่างไรก็ตามแนวรับที่แข็งแกร่งที่สำคัญอย่างมากนั้นอยู่ที่ระดับ 0.21-0.23 ดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันมีแนวรับที่สูงกว่านี้แล้ว แปลว่านักเทรดอาจจะสามารถสบายใจได้ไประดับหนึ่ง

โดยสรุปนั้นก็คือ ผู้เชี่ยวชาญจาก Cointelegraph ได้ออกมาเผยว่าแนวต้านที่แข็งแกร่งที่อยู่ที่ระดับ 0.32-0.345 ดอลลาร์นั้นคือจุดที่นักเทรดจะต้องผ่านไปให้ได้ โดยหากเราสามารถผ่านตรงจุดนี้ไปได้ นั่นจะเป็นการเปิดทางไปสู่แนวต้านระดับใหม่ในอนาคตที่สูงกว่านี้นั่นเอง