ราคาของ Ethereum ได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงนับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นปีนี้ และยิ่งไปกว่านั้นยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า Bitcoin อีกด้วย โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นมา มูลค่าของ Ethereum ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 81% แต่ตรงกันข้ามกับ Bitcoin ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 26% เท่านั้น
โดยสาเหตุหลัก ๆ สามประการที่ทำให้ราคาของ ETH พุ่งแซงหน้า BTC ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ก็คือ ปัจจัยการเติบโตที่เร่งตัวขึ้นของ Ethereum, ความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นรอบ ๆ ระบบนิเวศ DeFi และช่วงเวลาปัจจุบันของ BTC ที่มีความผันผวนค่อนข้างต่ำ
Ethereum กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจากความเชื่อมั่นของ ภาค DeFi
การเพิ่มขึ้นของราคาเหรียญ DeFi ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากมูลค่ารวมสินทรัพย์ที่ถูกล็อคบนแพลตฟอร์ม (TVL) ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยมูลค่ากว่า 24 พันล้านดอลลาร์ ที่แสดงสัญญาณให้เห็นถึงความต้องการในหมู่ผู้ใช้ Defi
จำนวนผู้ใช้ Defi ที่สูงเพิ่มขึ้นนั้นสามารถประเมินได้จากอัตราค่าธรรมเนียม Gas ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงตลอดหลายวันที่ผ่านมา โดยนาย Jacob Franek หุ้นส่วนของ DeFi Alliance กล่าวว่านี่แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้งาน :
“ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมนั้นเป็นตัวชี้วัดความต้องการที่ตรงจุดมากที่สุด แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมแต่ละรายการนั้นถูกลง ใช่มันกำลังจะมาพร้อมกับเครือข่ายแบบ 2 Layer และโซลูชั่นการปรับขนาดอื่น ๆ”
BTC มีความผันผวนที่ลดต่ำลง
ในช่วงตลอดหลายวันที่ผ่านมาราคา Bitcoin มีความผันผวนที่ลดต่ำลง เป็นผลทำให้ราคาของ Altcoins ส่วนใหญ่นั้นมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นสวนทาง
การพุ่งขึ้นของราคา Ethereum นั้นเกิดขึ้น ท่ามกลางช่วงที่นักเทรดเรียกว่า “Altseason” ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหรียญ Altcoins จำนวนมากมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เมื่อราคา Bitcoin เริ่มมีการเคลื่อนไหวอยู่ในลักษณะไซด์เวย์พร้อมกับส่วนแบ่งตลาดที่ลดต่ำลง
โดยปกติแล้วเมื่อราคา Bitcoin ไม่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะเริ่มแห่พากันย้ายเงินไปลงทุนในเหรียญ Altcoins เพื่อเก็งกำไรในระยะสั้นแทน
อย่างไรก็ตามนักเทรดบางรายกล่าวเตือนว่า BTC / USD ยังคงอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนและราคาของมันอาจร่วงลดลงได้ทุกเมื่อ ดังนั้นหากสิ่งนี้เกิดขึ้นราคาของ Altcoin ก็มีแนวโน้มที่จะขาดทุนมากกว่าเมื่อเทียบกับ BTC โดยนักเทรดชื่อดัง Jonny Moe กล่าวว่า :
“ทุกครั้งที่ผมจ้องไปที่กราฟ Bitcoin นานเท่าไหร่ผมก็ยิ่งรู้สึกถึงช่วงขาลงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังไม่สามารถสลัดความคิดนั้นออกไปได้เลย”