ราคา Bitcoin ยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2020 โดยจากต้นปีจนถึงปัจจุบันราคา Bitcoin (BTC) ได้พุ่งขึ้นมากว่า 70% และมูลค่าตลาดโดยรวมพุ่งถึง 960 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อ้างอิงจากราคาที่ระดับ $51,700 แต่ไม่ใช่เพียง Bitcoin เท่านั้นที่ราคาพุ่งขึ้นสูงตลอดต้นปีนี้ แต่ Altcoin บางตัวกลับสามารถทำราคาได้ดีกว่า Bitcoin อีกด้วย
ได้มีการคาดการณ์กันว่าการพุ่งขึ้นของราคา Bitcoin นั้นเกิดจากการเข้าลงทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ซึ่งมีการเข้าลงทุนกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในปี 2020 โดยล่าสุด บริษัท Tesla ได้เข้าลงทุนใน Bitcoin รวมมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่บริษัทอื่น ๆ ได้ประกาศว่าจะเข้าลงทุนใน Bitcoin เร็ว ๆ นี้อีกด้วย
ปัจจุบันมูลค่าตลาดโดยรวมของคริปโตอยู่ที่มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนแบ่งตลาดของ Bitcoin ประมาณ 60% ลดลงจากเมื่อ 1 ปีก่อนที่ Bitcoin เคยครองส่วนแบ่งตลาดถึง 70%
คริปโตที่มีมูลค่าอันดับที่ 2 ในปัจจุบันนั้นคือ Ethereum (ETH) ซึ่งตาม Bitcoin มาอย่างติด ๆ โดยปัจจุบันมีมูลค่าตลาดสูงถึง 2.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปัจจุบันราคา ETH สามารถทำลายสถิติที่ตัวเองเคยสร้างไว้เมื่อปี 2018 แล้ว และจากต้นปีที่ผ่านมาราคา ETH ได้พุ่งขึ้นถึง 150%
ราคา Ethereum ได้พุ่งสูงขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากตลาด DeFi ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของ Ethereum Blockchain ได้รับความสนใจจากนักลงทุนกันมากขึ้น
เช่นเดียวกันกับ Cardano (ADA) และ Polkadot (DOT) ซึ่งมีระบบ DeFi ของตนเองและถูกพัฒนามาเพื่อแข่งขันกับ Ethereum โดยราคาได้พุ่งขึ้นจากเมื่อต้นปีมาถึง 420% และ 255% ตามลำดับ
ในขณะที่ราคาของ Binance Token ( BNB) พุ่งขึ้นโดยแทบไม่มีผลจากแนวโน้มราคา Bitcoin เลยแม้แต่น้อย ต้นปีที่ผ่านมา ราคาได้พุ่งขึ้นถึง 375% ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
นาย Adam Liposky ผู้สร้างระบบ Pocket Network ให้ความเห็นไว้ว่า “ขาขึ้นของราคาคริปโตในตลาดครั้งนี้มาจากนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น … และการพุ่งขึ้นของราคาในครั้งนี้จะกลายเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ การพัฒนาระบบ Decentralized ให้รวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก และมันจะเปลี่ยนแปลงตลาดการเงินระดับโลกไปตลอดกาล”
ที่มา: Forbes