ในวันเสาร์ที่ 13 มีนาคมนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. นั้นได้ออกมาทำการโพสต์ภาพเพื่อชี้แจงนักลงทุนเกี่ยวกับสถานที่ในการลงทุนเหรียญ cryptocurrency เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อและถูกหลอกโดยกลุ่มมิจฉาชีพ
โดยอ้างอิงจากโพสต์บน Facebook ของทาง ก.ล.ต. นั้นพวกเขาได้ออกมากล่าวว่า
“ใคร ๆ เขาฮิต Clubhouse แต่ ก.ล.ต. ฮิต Club ความรู้ คริปโท มาแรง!! ศึกษาสักนิด ก่อนคิดลงทุน ก.ล.ต. แนะนำผู้ที่สนใจลงทุนในคริปโท ควรศึกษาข้อมูลรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ที่ www.sec.or.th หรือแอปพลิเคชัน SEC Check First
#คริปโท #สินทรัพย์ดิจิทัล ”
นอกจากนี้ยังได้มีการโพสต์ภาพที่เผยถึงเว็บเทรดคริปโตที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยทั้งหมด 10 แห่งด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย
- Bitkub
- Satang Pro
- Huobi Thailand
- Bitazza
- ER-X
- Zipmex
- Upbit
- Z.comEX
- Coins TH
- KULAP
จะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อกระแสเหรียญคริปโตนั้นเริ่มมาแรงตั้งแต่ตอนช่วงต้นปี 2021 นี้ ทำให้เราได้เห็นการออกมาเตือนจาก ก.ล.ต. ที่ค่อนข้างบ่อย อีกทั้งยังมีความพยายามในการร่างกฎหมายและ hearing เกี่ยวกับการจำกัดคุณสมบัติของนักลงทุน Bitcoin และคริปโตอีกด้วย
โดยก่อนหน้านี้ทางสยามบล็อกเชนนั้นได้รายงานไปแล้วว่าทาง ก.ล.ต. ไทยนั้นได้ออกมาเสนอข้อกฎหมายที่ให้นักลงทุนคริปโตที่มีรายได้ต่อปี 1,000,000 บาทขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะสามารถลงทุนใน Bitcoin และคริปโตได้ เนื่องจากว่ามีนักลงทุนเป็นจำนวนมากที่ขาดความรู้และความเข้าใจในสินทรัพย์ดิจิทัลกระโดดเข้าไปลงทุน และเกิดการขาดทุนกันอย่างมาก
ภายหลังจากนั้นก็มีกระแสต่อต้านเป็นจำนวนมากจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อยในไทย โดยหลัก ๆ นั้นมองว่าการออกกฎหมายดังกล่าวถือเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ เนื่องจากว่านักลงทุนเหล่านี้ก็ยังคงสามารถแห่ไปเปิดบัญชีเว็บเทรด Bitcoin ในเว็บต่างประเทศได้ เนื่องจากว่าโลกคริปโตนั้นไร้พรหมแดน สามารถโอนหรือส่งเหรียญหากันได้ทั่วโลกแบบไร้ตัวกลางได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังถือเป็นการทำให้เว็บเทรดคริปโตในไทยสูญเสียผลประโยชน์อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม กฎดังกล่าวยังเป็นเพียงแค่ข้อเสนอที่กำลังรอการ hearing เพื่อฟังความเห็นอยู่ในขณะนี้ และคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดพูดคุยอีกรอบในช่วงปลายเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป