<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Jed McCaleb อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple เทขาย 127 ล้าน XRP ใน 15 วันที่ผ่านมา เหลือ 336 ล้านเหรียญใน Wallet

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ข้อมูลล่าสุดของ XRPscan เผยให้เห็นว่า นาย Jed McCaleb ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple Labs ได้มีการโอนเหรียญกว่า 127 ล้าน XRP เพื่อเทขายในช่วง 15 วันที่ผ่านมา   ในขณะเดียวกันในกระเป๋าเงินคริปโต “tacostand” ของเขายังคงมี XRP เหลืออีก 336 ล้านเหรียญ

มีการเคลื่อนย้าย XRP มูลค่า 71 ล้านดอลลาห์จาก “tacostand”

จากเว็บไซต์การวิเคราะห์ธุรกรรมอย่าง XRPscan ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม นาย Jed McCaleb ได้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ XRP จำนวน 15 รายการ (มีการโอนหนึ่งครั้งต่อวัน) โดยมีการเคลื่อนย้ายเหรียญ XRP ทั้งหมด 126.6 ล้านเหรียญ นับเป็นมูลค่าในสกุลเงิน fiat ประมาณ 71 ล้านดอลลาห์สหรัฐ

Jed McCaleb ผู้เคยเป็นผู้บริการฝ่ายเทคโนโลยีคนแรกของ Ripple Labs (ตอนนั้นรู้จักกันในนาม OpenCoin ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อใหม่) ซึ่งเขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพร้อมกับ Chris Larsen เมื่อปี 2012 อย่างไรก็ตามด้วยความเห็นที่ไม่ตรงกันในช่วงหลัง McCaleb ได้ตัดสินใจลาออก และออกไปสร้าง Stellar บริษัทคู่แข่งด้วยโทเค็น XLM

เขาได้รับค่าตอบแทนอย่างดีงามเป็นจำนวนถึงเก้าพันล้าน XRP ซึ่งเขาได้แบ่งขายเป็นจำนวนเล็ก ๆ นับตั้งแต่นั้นมา อันเนื่องมาจากข้อตกลงที่เขาลงนามห้ามไม่ให้มีการขาย XRP ที่เขาเป็นเจ้าของทิ้ง ทั้งหมดในตลาดพร้อมกัน เพื่อป้องกันไม่ให้อัตราแลกเปลี่ยน XRP ลดลงเหลือศูนย์

McCaleb ขาย XRP ทิ้งไป 152 ล้านเหรียญ ก่อนหน้านั้น

ที่ผ่านมาการขายของ MaCaleb บ่อยครั้งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาของโทเค็นที่ใหญ่เป็นอันดับเจ็ดอย่าง XRP

โดยเมื่อวันที่ 15 มีนาคม U.Today รายงานว่า ผู้ร่วมก่อตั้งของบริษัทได้ถอนโทเค็น XRP จำนวน 152 ล้านเหรียญในช่วงเก้าวันที่ผ่านมา นับเป็นจำนวนเงินกว่า 65,183,376 ดอลลาห์

Ripple ยังคงถกเถียงทางกฎหมายกับสำนักงาน ก.ล.ต

คดีความทางกฎหมายที่หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของสหรัฐยื่นฟ้อง Ripple Labs รวมถึง Chris Larsen และ Brad Garlinghouse ผู้บริหารระดับสูงสุดสองคนยังคงดำเนินต่อไป

โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัท Ripple ได้ยื่นคำร้องต่อศาล โดยเป็นการบังคับให้สำนักงาน ก.ล.ต. ต้องจัดทำเอกสารที่หน่วยงานกำกับเคยดูแลระบุ Bitcoin และ Ethereum เป็นไม่ใช่หลักทรัพย์

ศาลได้อนุมัติเรื่องนี้และประกาศวันประชุมทางโทรศัพท์สำหรับทั้งสองฝ่ายในวันที่ 6 เมษายน ซึ่งต้องจับตาดูกันต่อไปสำหรับความคืบหน้าของคดีนี้