Michael Saylor CEO ของ MicroStrategy กำลังสรุปว่าจะมีเหรียญคริปโตหรือสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่น ๆ ที่สามารถแซงหน้า Bitcoin มาเป็นเหรียญที่มีมูลค่าตลาดอันดัหนึ่งของโลกได้หรือไม่
ในการให้สัมภาษณ์กับ CNN นั้นนาย Saylor กล่าวว่าไม่เคยมีหน่วยงานใดในประวัติศาสตร์ที่เติบโตและล้มเหลวได้มากเท่ากับ Bitcoin อีกแล้ว นอกจากนี้เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า Bitcoin มีความโดดเด่นในวงการของมันเองอีกด้วย มากกว่าบริษัทยูนิคอร์นด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกบางตัวก่อนที่จะมีชื่อเสียงเสียอีก
“ก่อนหน้านี้ในอดีตมันไม่เคยมีเครือข่ายที่มีมูลค่าถึงหลายแสนล้านดอลลาร์ ซึ่งใหญ่กว่าการแข่งขันที่ดีที่สุดที่เคยล้มเหลวถึง 50 เท่า คุณสามารถคาดการณ์ Google, Facebook, Amazon, Apple ได้ว่าจะประสบความสำเร็จในปี 2010 เนื่องจากพวกเขาครองตลาดอยู่แล้ว แต่พวกเขามีการเติบโตที่มากกว่านี้ในอีก 1 ทศวรรษรอคอยอยู่ วันนี้ Bitcoin มีความโดดเด่นมากกว่า บริษัท ใด ๆ หากเทียบกับตอนที่พวกเขาเพิ่งจะเริ่มก่อตั้งใหม่ ๆ”
นอกจากนี้ Saylor ยังเชื่อว่าเทคโนโลยีและสถาปัตยกรรมหลักของ Bitcoin ทำให้มันมีความเหนือชั้นเหนือกว่า crypto หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ
“ถ้าสิ่งที่คุณต้องการทำคือประหยัดเงินและมอบให้กับลูก ๆ และหลาน ๆ ของคุณ คุณก็ต้องมีสิ่งที่มีเสียง และเสียงนั้นต้องเริ่มต้นด้วยเสียงตามอุณหพลศาสตร์ สถาปัตยกรรม proof of work นั้นถือเป็นสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดในการออกแบบสิ่งที่จะกระจายอำนาจและปลอดภัยและคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน …
Bitcoin เป็นเครือข่ายสินทรัพย์ crypto ที่โดดเด่น และหากคุณต้องการสินทรัพย์ระยะยาวที่จะคงอยู่ได้นานถึงร้อยปี คุณต้องกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์และทำให้มันไม่ต้องขออนุญาตใคร และคุณจำเป็นต้องฝังมันไว้ในท้องฟ้าของโลกนี้ ตามอุณหพลศาสตร์ด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าสถาปัตยกรรมของ Bitcoin จะฝังอยู่ในความเป็นจริงของกฎฟิสิกส์เนื่องจากมันใช้พลังงานและยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทางนักการเมือง”
เมื่อไม่นานมานี้นาย Saylor ได้จับมือกับ Elon Musk CEO ของ Tesla เพื่อร่วมกันก่อตั้ง Bitcoin Mining Council ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการใช้พลังงานของ BTC โดยสภาดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะ “ส่งเสริมความโปร่งใสในการใช้พลังงานและสร้างความยั่งยืนด้านการขุดทั่วโลก” โดยมีบริษัทด้านการขุดที่มีชื่อเสียงเช่น Argo Blockchain, Blockcap, Core Scientific, Galaxy Digital, HIVE Blockchain, Hut 8 Mining, Marathon Digital Holdings และ Riot Blockchain มาเข้าร่วมสภาดังกล่าวอีกด้วย