รายงานใหม่จาก UsefulTulips เผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาประเทศในแถบแอฟริกาเป็นผู้นำในด้านการซื้อขาย Bitcoin แบบ peer-to-peer (P2P) โดยทวีปแห่งนี้มีบันทึกการทำธุรกรรมเป็นมูลค่าสูงกว่า 17 ล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม และคิดเป็นการเพิ่มขึ้นประมาณ 50% เมื่อเทียบเป็นรายปี
รายงานระบุว่า ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาประเทศในแถบแอฟริกามีวอลุ่มการซื้อขาย Bitcoin แบบ P2P เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ตรงกันข้ามกับทวีปอื่น ๆ ที่มีวอลุ่มลดลง ยกตัวอย่างเช่น อเมริกาเหนือที่มีวอลุ่มการซื้อขายแบบ P2P ลดลงถึง 18 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้รายงาน UsefulTulips ยังชี้ให้เห็นว่า ในขณะที่ประเทศในแอฟริกาตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารามีวอลุ่มการซื้อขาย Bitcoin แบบ P2P ที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ประเทศในแอฟริกาตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือกลับมีวอลุ่มการซื้อขายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยทั้งสองภูมิภาคนี้มีวอลุ่มการซื้อขายคริปโตแบบ P2P น้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์ แต่โดยรวมแล้วทวีปเหล่านี้ได้เห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2020
การเติบโตเพิ่มขึ้นของการทำธุรกรรมแบบ P2P ในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางด้านกฎระเบียบคริปโตของรัฐบาลแอฟริกาใต้และไนจีเรีย โดยทั้งสองประเทศนั้นได้สั่งห้ามไม่ให้พลเมืองของตนใช้สินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยเหตุนี้นักเทรด Bitcoin จึงต้องแสวงหาทางเลือกอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดที่รัฐบาลของตนวางเอาไว้ และการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ P2P ก็ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม