<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ตลาดคริปโตจะเป็นอย่างไรหลังการประชุม FED มีมติให้คงดอกเบี้ย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณตี 1 บ้านเรามีการประชุมครั้งสำคัญที่ทั่วโลกจับตามองของคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) โดยประเด็นที่ผู้คนให้ความสนใจอยู่ที่การกำหนดอัตราดอกเบี้ยของ FED ซึ่งผลปรากฎว่าสมาชิกมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% เท่าเดิม

อย่างไรก็ตามทาง FED ได้มีการส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น เดิมก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะไม่ปรับขึ้นจนกว่าจะถึงปี 2024 ซึ่งการปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นนี้จะปรับขึ้น 2 ครั้งภายในปี 2023 และแน่นอนว่าส่งผลต่อตลาดการลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยทันทีที่ผลการประชุมถูกเผยแพร่ออกมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ นำโดย Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ต่างติดลบราว 1% ส่วนตลาดคริปโตเคอร์เรนซีก็ตอบสนองเล็กน้อยโดยราคาพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบวันที่ระดับ $38,000 ก่อนรีบาวน์กลับมายืนที่ระดับ 39,000 ในขณะที่เขียนบทความนี้

ราคาทองคำร่วงยับหลังการประชุม อาจส่งผลดีต่อตลาดคริปโต?

หลังจากการลงมติในที่ประชุมเสร็จสิ้นให้มีการคงอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้นและปรับขึ้นภายหลังภายในปี 2023 ราคาทองคำก็ตอบสนองอย่างรุนแรงโดยมีการร่วงลงตลอดทั้งคืนตั้งแต่การประชุมเริ่มต้นขึ้นจากระดับ 1,860 USD/Oz สู่จุดต่ำสุดในรอบเดือนที่ 1,800 USD/Oz ก่อนที่จะรีบาวน์ขึ้นมาเล็กน้อยในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา

สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้เม็ดเงินจำนวนมากไหลออกจากสินทรัพย์การลงทุนยอดนิยมอย่างทองคำและหุ้น ไปสู่สินทรัพย์หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ หรือแม้แต่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี

ทำไมต้องเป็นตลาดคริปโตเคอร์เรนซี?

เนื่องจากตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในโลกของการลงทุนหรือเก็งกำไรในปีนี้ จะเห็นได้จากบริษัทระดับโลก Tesla หรือ MicroStrategy เข้ามาเป็นผู้เล่นในสนาม อีกทั้งนักลงทุนที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของโลก Ray Dalio ก็เข้ามาถือครอง Bitcoin เช่นกัน เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเม็ดเงินจำนวนมากและความเชื่อมั่นเริ่มไหลเข้ามาในตลาดคริปโตบ้างแล้ว

แน่นอนว่าเม็ดเงินอาจจะไม่ได้เข้าสู่ตลาดคริปโตทั้งหมด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ตลาดคริปโตเป็นตลาดที่ผู้คนหันมาสนใจกันมากขึ้นทุกวัน อีกทั้งมูลค่าตลาดโดยรวมยังไม่สูงมากนัก หากมีเม็ดเงินส่วนหนึ่งของตลาดหุ้นหรือทองคำไหลเข้ามา ก็อาจช่วยให้ตลาดแห่งนี้เติบโตได้อีกมหาศาล

Jerome Powell likely to raise rates in US Fed policy meet, may upgrade 2018  outlook | Hindustan Times

Bitcoin จะเป็นทางเลือกการลงทุนและเก็งกำไรในยุคใหม่

เดิมทีผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างทองคำ อสังหาฯ และหุ้น เป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในโลกของการลงทุน แต่ปัจจุบันตลาดคริปโตได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้ตลาดการลงทุนแบบดั้งเดิมอาจถูกแบ่งสัดส่วนเม็ดเงินเข้ามาในตลาดคริปโต ซึ่งการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ อาจส่งผลให้ตลาดคริปโตเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนในยุคใหม่นอกเหนือจากที่กล่าวไปข้างต้น

ประกอบกับสถานการณ์ราคา Bitcoin ในปัจจุบันดูเหมือนจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือนที่แล้วที่ร่วงลงอย่างรุนแรงครั้งหนึ่งในปีนี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่าการร่วงลงของราคาทองคำ อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เม็ดเงินไหลกลับเข้ามายังตลาด Bitcoin ก็เป็นได้

เนื่องจากสินทรัพย์ทั้งสองชนิดนี้ได้ชื่อว่าเป็นสินทรัพย์ประกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ มีบทบาทคล้ายคลึงกันในเรื่องของการเป็น Store of Value ไม่แน่ความสัมพันธ์นี้อาจบ่งบอกได้ถึงเม็ดเงินที่กำลังแย่งกันอยู่ว่าจะเข้าไปที่ตลาดแห่งใด

ต้องติดตามกันต่อว่าตลาดคริปโตและ Bitcoin ในปีนี้จะมีทิศทางเป็นอย่างไรหลังจากสถานการณ์ Covid-19 ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกนั้นเริ่มดีขึ้น และนโยบายทางการเงินของประเทศผู้นำโลกเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น นักลงทุนไม่ควรพลาดข่าวสาร

บทความนี้เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลและความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร