<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

กูรูอสังหาฯ ชื่อดังในไทยคาด Bitcoin ยังเติบโตได้อีกมาก และเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แม้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจะซบเซาอย่างหนัก และยังคงมีการปรับฐานราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ราคา Bitcoin ได้มีการปรับฐานราคาลดลงกว่าครึ่งจากระดับ 6 หมื่นสู่ 3 หมื่นดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าตลาดโดยรวมสกุลเงินดิจิทัลร่วงเหลือเพียง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ถึงกระนั้นกูรูอสังหาฯ ชื่อดังในไทยยังคงเชื่อมั่นว่า Bitcoin ยังเติบโตได้อีกมากและเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น

ในช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาฯ ชื่อดังในไทย “คุณคิม” หรือ Kim Property Live ที่มียอดผู้ติดตามบนช่อง Youtube กว่า 6.6 แสนคน ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่อง Bitcoin ว่าทำไมเขาถึงเชื่อว่า Bitcoin ยังเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น

Bitcoin เป็นเหมือนกับอินเทอร์เน็ต

คุณคิมได้กล่าวถึงตลาดคริปโตในช่วงนี้ว่าเป็นเหมือนกับยุคอินเทอร์เน็ตในปี 2000 ที่ในช่วงเวลานั้นยังไม่ได้รับการยอมรับมากนัก 

คุณคิมมองว่า ในช่วงปี 2000 แม้อินเทอร์เน็ตจะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นเทคโนโลยีจะได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ แต่ทว่าโครงสร้างของมันเกี่ยวกับการยอมรับ รวมถึงตัวผู้ใช้งานนั้นยังคงน้อยมาก อีกทั้งยังมีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ต่ำมาก และยังไม่ได้รับการยอมรับจากมือถือ สมาร์ทโฟนเฉกเช่นเดียวกับทุกวันนี้ ทำให้การเกิด Mass adoption ของอินเทอร์เน็ตไปได้ยากมาก 

และเมื่อนำ Bitcoin ในปี 2017 มาเปรียบเทียบแล้ว คุณคิมมองว่า Bitcoin ก็ดูคล้าย ๆ กับอินเทอร์เน็ตในช่วงเวลานั้น ที่ยังไม่มีโครงสร้างให้ผู้คนสามารถนำมาใช้งานได้จริง ทำให้ไม่เกิดการยอมรับมากเท่าที่ควร จนในที่สุดก็จบลงเป็นเพียงแค่การเก็งกำไรเช่นเดียวกับฟองสบู่ดอทคอมของอินเทอร์เน็ต

อย่างไรก็ตามคุณคิมมองว่า ปัจจุบัน Bitcoin เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว เนื่องจากนักลงทุนสถาบันที่เริ่มก้าวเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Tesla, Coinbase, Sqaure หรือ Microstrategy ส่งผลให้นำไปสู่การพัฒนาและการนำไปใช้จริงมากขึ้น ต่างจากในอดีตที่มีแต่นักลงทุนรายย่อยเข้ามาเก็งกำไรกันเพียงอย่างเดียว 

การมาของนักลงทุนสถาบันส่งผลดีต่อ Bitcoin ยังไง ?

เมื่อพูดถึงการมาของนักลงทุนสถาบันนั้นจะส่งผลดีต่อ Bitcoin อย่างไร คุณคิมมองว่า “นักลงทุนสถาบันอย่าง Sqaure และ Coinbase ที่ทำธุรกิจด้านคริปโตอยู่แล้ว เมื่อพวกเขาได้รับผลกำไรจาก Bitcoin มากมาย แน่นอนว่าพวกเขานำเงินเหล่านี้มาผลักดันให้เกิด Mass adoption ใน Bitcoin ให้เร็วขึ้น ซึ่งมันจะเร็วกว่าการผลักดันจากนักลงทุนรายย่อยอยู่แล้ว”

คุณคิมกล่าวว่า ในยุคนี้มันเป็นเหมือนกับยุคการสร้างโครงสร้างโซลูชั่นต่าง ๆ เช่น Lighting network ที่มาช่วยทำให้ Bitcoin เกิดการนำเอาไปใช้จริงมากขึ้น และนักลงทุนสถาบันหรือผู้เล่นรายใหญ่ ๆ เหล่านี้เองที่จะเข้ามาสร้างโครงสร้างให้เกิด Mass adoption ใน Bitcoin ได้เร็วขึ้น 


“มีคนวิเคราะห์หลายคนเลยว่า ในอนาคตคุณอาจจะใช้ Bitcoin โดยที่คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณใช้ Bitcoin อยู่ แต่มันจะอยู่เบื้องหลังในการจ่ายเงินในทุก transection ในระบบ payment ของโลก”

ความโปร่งใสและกฎหมาย

สำหรับเหตุผลสุดท้ายที่ทำไมคุณคิมถึงมองว่าทำไม Bitcoin ยังเติบโตได้อีกมาก และเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้นคือ เรื่องความโปร่งใสและกฎหมาย เช่นเรื่อง ETF ที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ โดยคุณคิมกล่าวว่า : 

“ถ้าทุกอย่างมันลงตัว กฎหมายมันเริ่มผ่าน รายใหญ่เริ่มเข้ามา เงินจากสถาบันก็จะหลั่งไหลเข้ามาในอุตสากรรมได้ครบถ้วนมากขึ้น”

“จากที่พูดมาทั้งหมดข้างต้นยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ทั้งโครงสร้าง, ช่องทางด้านกฎหมาย, เม็ดเงินที่จะเข้ามา, กระจายอำนาจที่ดีขึ้น, ความน่าเชื่อถือ, Service บริการต่าง ๆ นาที่จะทำให้ Adoption ครั้งใหญ่เกิดขึ้น และนี่เป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงคิดว่า Bitcoin ยังเล็กอยู่มากและเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น”