Ethereum (ETH) เหรียญที่มูลค่ารวมในตลาดอันดับสองของโลกได้เผาค่าธรรมเนียมไปแล้วกว่า 100,000 ETH ในขณะนี้นับตั้งแต่เปิดใช้ EIP-1559 ในการอัปเกรด London Hardfork โดยใช้เวลาเพียง 21 วันเท่านั้น แม้ว่าราคา Ethereum ยังเป็นเป็นที่น่ากังวลใจของนักลงทุนที่อยู่ในตลาดขณะนี้
EIP-1559 เป็นการปรับปรุงที่โดดเด่นที่สุดซึ่งมาพร้อมกับ London Hardfork ที่เหล่าชุมชน crypto ต่างตั้งตารอกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเปิดใช้งานแล้วเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา
การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินครั้งใหญ่นี้เชื่อว่าจะเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนราคา Ethereum ให้กลับมาฟื้นตัวจากสภาวะตลาดล่มในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แม้ว่าการเผาเหรียญจะช่วยเปลี่ยนให้ ETH กลายเป็นสินทรัพย์เงินฝืดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายความว่าอุปทานจะลดลงเรื่อย ๆ แม้เวลาจะผ่านไป โดยหลายคนมักนำไปล้อเล่นกับการขุด Bitcoin ที่ได้รับฉายาว่า sound ในอดีตโดยเรียก Ethereum ว่าเป็น ultra-sound
แม้ว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอีก 2 ล้าน ETH จะถูกลบออกอย่างถาวรในปีถัดไป แต่ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชุมชน ETH ว่านโยบายของเหรียญนั้นไม่สามารถคาดเดาได้จนเกินไป รวมถึงที่ผ่านมาพวกเขาอยุ่ในสภานการณ์ที่ค่อนข้างลำบาก หลังจากไม่สามารถระบุอุปทานทั้งหมดของ ETH ได้
ETH เริ่มเข้าใกล้ Proof of Stake (PoS)
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว EIP-1559 นั้นไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ แต่การอัปเกรดที่สำคัญนั้นยังถูกต่อต้านอย่างแข็งขันโดยนักขุดด้วยเหตุผลที่ว่ารายได้จำนวนมากของพวกเขากำลังถูกเผานับตั้งแต่เปิดตัว London Hardfork
ปัจจุบันตลาด NFT อย่าง OpenSea เป็นผู้ให้บริการค่าธรรมเนียมสูงสุดในเครือข่าย รองลงมาคือ Uniswap ผู้ดูแลสภาพคล่องอัตโนมัติ ก่อนการเปิดตัว EIP-1559 จะทำให้นักขุดจะถูกตัดออกจากธุรกรรมทุกประเภท เช่น การขาย NFT ซึ่งทำรายได้เป็นจำนวนมากในช่วงต้นปี 2021
ในตอนนี้ Ethereum อยู่ในกระบวนการเปลี่ยนจากอัลกอริธึมจาก Proof of Work (PoW) ไปสู่การพิสูจน์การเดิมพันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่าง Proof of Stake (PoS) ซึ่งต้องรอการเปิดตัว Ethereum 2.0 ในอนาคต
Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum กล่าวว่าเขามีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการควบรวม Ethereum 1.0 และ Ethereum 2.0 ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้าหลังจากเกิดความล่าช้าอย่างมาก
อย่างไรก็ตามหาก Ethereum 2.0 เสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ตามกำหนดเวลาที่ Vitalik ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ อาจจะยังคงความเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดเหนือ Cardano ที่ตอนนี้ขยับมาเป็นเหรียญที่มีมูลค่าเป็นอันดับ 3 ของโลกเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นรองเพียง Bitcoin และ Ethereum เท่านั้น